เป็นประเด็นที่ร้อนแรงอย่างต่อเนื่องอีกครั้งกับ Elon Musk ผู้ที่ถูกขนานามว่าต้นแบบของ ‘ไอรอนแมน’ ผู้ก่อตั้ง SpaceX เป็นบริษัทเกี่ยวกับอวกาศ โดยมีการพัฒนาและทดลองระบบการบินของยานอวกาศ กับโครงการที่ชื่อว่า ‘New Space’ ซึ่งเป็นโครงการที่จะพามนุษย์ย้ายถิ่นฐานไปตั้งรกรากบนดาวอังคาร โดยมีแผน ที่จะเริ่มต้นเที่ยวแรกในปี 2023
ซึ่งในระหว่างการทดลองนั้นเกิดความล้มเหลวอยู่หลายต่อหลายครั้ง จนกระทั่งในปัจจุบัน ก็สามารถพัฒนาระบบลงจอดของจรวดในแนวดิ่งบน drone-ship กลางทะเลได้สำเร็จ ส่งผลให้การเดินทางไปในอวกาศมีค่าใช้จ่ายลดลงเป็นอย่างมาก
โดยโครงการ ‘New Space’ เปิดให้ชาวโลกเดินทางรอบแรกในปี 2023 เป็นจำนวน 200 คน ซึ่งจะเดินทางไปพร้อมกับวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างต่าง ๆ เพื่อวางรากฐานในการสร้างเมืองในอนาคต โดย Elon Musk ได้วางแผนเอาไว้ว่า อาจใช้เวลา 40-100 ปีโดยประมาณ ในการตั้งเมืองบนดาวอังคาร ซึ่ง Elon Musk กล่าวถึงวิสัยทัศน์จากโครงการนี้ว่า ต้องการให้สายพันธุ์มนุษย์เป็นสายพันธ์ที่มีถิ่นอาศัยหลายดาวเคราะห์ในจักรวาลนี้ และเพื่อหลีกเลี่ยงวัน “Doomsday” หรือ “วันสิ้นโลก” ที่อาจเกิดกับมวลมนุษยชาติได้ในอนาคต เพราะหากเกิดขึ้นจริง ก็ไม่ถึงกับสูญพันธ์ุ เพราะมีสายพันธุ์มนุษย์อยู่บนดาวอังคารอีกที่หนึ่งแล้ว
Elon Musk ยังประมาณการณ์ไว้อีกด้วยว่า หากเริ่มต้นการขนย้ายมนุษย์โดยมีเป้าหมายที่จำนวน 1 ล้านคนแรก หากยานอวกาศสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้เที่ยวละ 100 คน ก็จะต้องขึ้นบินเป็นจำนวน 10,000 เที่ยวบิน ซึ่งในปัจจุบัน ค่าใช้จ่ายต่อเที่ยวบินตกอยู่ที่ 1 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 3 แสนล้านบาทต่อคน) แต่ Elon Musk เองได้วางแผนการลดค่าใช้จ่ายลงโดยการใช้เชื้อเพลิงจากบนดาวอังคาร โดยอาจจะมีค่าใช้จ่ายเหลืออยู่ที่ 1 แสนเหรียญสหรัฐฯ ต่อคน (หรือประมาณ 3-4 ล้านบาทต่อคน) และแต่ละเที่ยวบินอาจใช้เวลาในการเดินทางเพียง 30 วันเท่านั้น!
ซึ่งแต่เดิมองการ NASA จะใช้ดวงจันทร์เป็นถิ่นฐานแรกที่จะให้มนุษย์ไปตั้งรกราก แต่ Elon Musk เห็นต่างว่าควรไปตั้งรกรากที่ดาวอังคารมากกว่า เพราะมีเวลาและสภาพอากาศที่ใกล้เคียงกับโลกมาก แถมสภาพอากาศยังส่งเสริมต่อการปลูกต้นไม้ เพื่อเพิ่มออกซิเจนให้กับชั้นบรรยากาศของดาวอังคาร ในขณะที่บนดาวอังคารนั้น มีแรงโน้มถ่วงเพียง 37% ของโลก ทำให้การขนย้ายสิ่งของที่มีน้ำหนักมาก กลายเป็นเรื่องง่ายขึ้นมาในทันที
Elon Musk ส่งท้ายว่า การที่จะเริ่มต้นโครงการ New Space นี้ จะใช้งบประมาณในการสานโครงการประมาณ 13 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว ๆ 4-5 แสนล้านบาท และนั่นคือเหตุผลเดียวในปัจจุบันที่ทำให้ Elon Musk เร่งสร้างทรัพย์สินและเก็บหอมรอบริบ เพื่อรอวันไปอาศัยจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิตบนดาวอังคาร
3 คมคิดจาก Elon Musk ผู้ก่อตั้ง SpaceX
“เมื่อตอนที่ผมเริ่มก่อตั้ง SpaceX ผมคิดว่า มีโอกาสที่จะทำสำเร็จนั้นมันน้อยกว่า 10% เสียอีก และผมก็ยอมรับด้วยว่า ผมอาจจะหมดตัวและล้มละลายไปกับโปรเจคนี้ แต่อย่างน้อยผมก็ได้เริ่มต้นขับเคลื่อนอะไรบางอย่างให้มันเดินไปข้างหน้า เพราะหาก SpaceX ล้มหายตายจากไป ผมก็เชื่อว่า จะมีคนสานต่อจากของเดิมที่เราเคยทำเอาไว้ และทำได้ดียิ่งกว่าผมเสียอีก”
——————————
“โครงการ SpaceX กว่าที่จะประสบความสำเร็จได้นั้น อาจจะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อยสัก 10 ปี และผมต้องมั่นใจว่า ในระหว่างนั้น ผมจะปล่อยให้ SpaceX ล้มหายตายจากไปก่อนหน้านั้นไม่ได้ และที่สำคัญไปกว่านั้นคือ ผมจะยังตายไม่ได้จนกว่ามันจะสำเร็จ และต่อให้ผมต้องตายจากไปจริง ๆ ผมก็ต้องมั่นใจว่า จะต้องมีคนคอยสานงานนี้ต่อจากผม”
——————————
“ถ้าหากใครสักคนคิดจะสร้างบริษัทเกี่ยวกับยานอวกาศ โดยมีเป้าหมายคือผลกำไรแล้วล่ะก็ การเลือกธุรกิจนี้เป็นอะไรที่เสี่ยงมาก ๆ แต่นั่นมันไม่ใช่จุดประสงค์ที่ผมสร้าง SpaceX นี้ขึ้นมา ผมสร้างมันขึ้นมาเพื่อที่ต้องการจะให้เกิดนวัตกรรมใหม่ ๆ ในวงการอุตสหกรรมการบินและยานอวกาศ เพราะเท่าที่ผ่านมา บริษัทที่เกี่ยวกับยานอวกาศนั้น มีแต่ของเก่า ๆ นวัตกรรมเก่า ๆ ที่เอามาปรับปรุงให้ดีขึ้น แต่ไม่มีบริษัทไหนพยายามที่จะคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ เลย”
——————————————————
ติดต่องานโฆษณาได้ที่ : contact@founder29.com
——————————————————
อ่านบทความเพิ่มเติมของ Elon Musk
- Elon Musk เปิดตัว Neuralink สตาร์ทอัพมหาประลัย เปลี่ยนมนุษย์เป็นไซบอร์กคุมจักรกลผ่านสมองคน
- โลกปรบมือ! Elon Musk เร็วฟ้าแล่บ เปลี่ยนระบบ Tesla ทั้งสหรัฐฯ เพราะ Twitter จากลูกค้าประโยคเดียว
- คมความคิด ปั้นธุรกิจแบบสุดยอด CEO : Elon Musk นักธุรกิจคิดไกลไปนอกโลก
ที่มา telegraph