วันที่ 17 กันยายน 2562 เว็บไซต์ Auto Motor Sport สื่อของเยอรมันรายงานว่า นาย Markus Schäfer หัวหน้าทีมพัฒนาผลิตภัณฑ์บริษัท Daimler ผู้ผลิตและจำหน่ายรถหรูอย่าง Mercedes Benz ประกาศเลิกพัฒนาเครื่องยนต์แบบ Internal Combustion Engine หรือ ICE หรือ รถยนต์ที่ใช้น้ำมัน และจะหันมาทุ่มเททรัพยากรเพื่อเดินหน้าเข้าสู่ยุค Electric Vehicle หรือ รถ EV
การประกาศเลิกพัฒนารถยนต์ใช้น้ำมันของ Daimler ถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญของวงการรถยนต์ เนื่องจาก Daimler เป็นหนึ่งในบริษัทรถยนต์เก่าแก่ของโลก ก่อตั้งในปี 1926 และเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการพัฒนารถยนต์แบบ Internal Combustion Engine หรือ ICE มาตลอดเกือบ 1 ศตวรรษ
Daimler เป็นเจ้าของรถยนต์น้ำมันสุดหรูอย่าง Mercedes Benz นอกจากนั้นยังมี รถบรรทุก Daimler Truck, รถตู้ Daimler Bus และ รถตู้ Benz Van ซึ่งต่างสร้างรายได้สูงถึงกว่า 184 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2018 ที่ผ่านมา
ในขณะเดียวกัน Daimler เพิ่งพัฒนาเครื่องยนต์ 6 สูบรุ่นใหม่สำหรับรถเบนซ์ E-Class, S-Class และ SUV แต่แล้วก็ออกมาประกาศเลิกพัฒนาเครื่องยนต์แบบใช้น้ำมันหลังจากนี้ไป อาจแสดงให้เห็นถึงสัญญาณความเปลี่ยนแปลงบางอย่างของอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลกในอนาคตอันใกล้
สื่อเว็บไซต์ The Driven ให้ข้อมูลว่าบริษัท Daimler ได้เริ่มพัฒนารถยนต์ไฟฟ้า หรือ รถ EV มาตั้งแต่ช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2019 เป็นรถ EV ประเภท EQC SUV (Electric Intelligence/ Sport Utility Vehicle) ซึ่งจะประเดิมตลาดในประเทศออสเตรเลียในเร็ว ๆ นี้
Markus Schäfer ไม่ได้เปิดเผยงบประมาณที่จะใช้ในการพัฒนารถ EV แต่เขาบอกต่อสื่อสั้น ๆ ในทำนองว่า ‘ก็มากโข’
การประกาศข่าวในครั้งนี้ทำให้ Elon Musk นักธุรกิจผู้ก่อตั้งและซีอีโอรถยนต์ไฟฟ้า Tesla ถึงกับออกมาแสดงความยินดีผ่าน Twitter แม้ข่าวนี้จะทำให้ Tesla ต้องมีคู่แข่งรายใหญ่เพิ่มขึ้นอีก 1 ค่าย ในขณะที่ Mercedes Benz ก็ได้ Reply ต้อนรับคำยินดีของ Elon Musk
Very meaningful action by the company that invented the internal combustion engine. People will remember this day. Respect.
— Elon Musk (@elonmusk) September 19, 2019
Elon Musk เคยกล่าวต่อสื่อว่า Tesla ยินดีเป็นผู้นำในการผลักดันให้ผู้ผลิตรถยนต์รายอื่น ๆ หันมาทำรถ EV เพื่อช่วยกอบกู้สิ่งแวดล้อม – นั่นจึงอาจเป็นเหตุผลที่ Musk ไม่ได้มองว่าผู้ผลิตรายใหม่เป็นคู่แข่งแต่อย่างใด