ธุรกิจ Crypto สาหัส แห่เลิกจ้างพนักงาน ลดต้นทุน ชะลอขยายงานไม่มีกำหนด

หลังจากธุรกิจการกระดานเทรดคริปโตเคอร์เรนซี่อันดับ 3 ของโลกอย่าง Coinbase ประกาศหยุดจ้างงาน อย่างไม่มีกำหนดหลังตลาดหมีคริปโตฯ ทำพิษ ปริมาณการซื้อขายในกระดานลดฮวบ 43% และราคาหุ้นตกฮวบ 81% บรรดากิจการคริปโตฯ น้อยใหญ่ต่าง ๆ ก็เริ่มทยอยประกาศหยุดจ้าง หรือเลิกจ้างพนักงาน ตามลำดับ

เริ่มต้นกันที่สองพี่น้องฝาแฝดชื่อดัง Cameron และ Tyler Winklevoss เจ้าของ Gemini กระดานเทรดคริปโต และคัสโตเดี้ยน (บริการเก็บรักษาสินทรัพย์ดิจิทัล) ของสหรัฐฯ

สองพี่น้องคู่นี้ มีชื่อเสียงมาจากการเคยเป็นผู้ฟ้องร้อง Mark Zuckerberg ในข้อกล่าวหานำไอเดียและโค้ดคอมพิวเตอร์ของพวกเขาไปพัฒนาเป็น Facebook

สองพี่น้องได้เงินค่าเสียหายจำนวน 65 ล้านดอลล่าร์ ในปี 2008 และเริ่มลงทุน บิตคอยน์ ในปี 2012 และหลังจากนั้นก็ติดใจ และเริ่มก่อตั้งธุรกิจและลงทุนในกิจการที่เกี่ยวกับ คริปโตเคอร์เรนซี่ และบล็อกเชนเรื่อยมา

แม้พวกเขาจะเคยมีประสบการณ์ผ่านช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตฯ มีความผันผวน แต่แล้วเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ปี 2022 พวกเขาประกาศผ่าน บล็อกของเว็บไซต์ Gemini.com ว่า จะต้องเลิกจ้างพนักงาน 10% ของบริษัท

โดยให้เหตุผลว่า ตลาดคริปโตฯ กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย หรือที่เรียกว่า Crypto winter ซึ่งเป็นภาวะตลาดหมีอันยาวนาน เกิดครั้งล่าสุดต้นปี 2018 และสิ้นสุดปลายปี 2020 หรือประมาณ 2 ปี เมื่อมาประกอบการความตึงเครียดของสถานการณ์เศรษฐกิจมหาภาคต่าง ๆ ในสหรัฐฯ พวกเขาจึงต้องทำการตัดสินใจที่ยากลำบากใจนี้

โดยทาง Gemini ยืนยันว่าจะมีการพูดคุยเรื่องผลประโยชน์ชดเชยแก่พนักงานที่ถูกเลือกเลิกจ้าง โดยปัจจุบันมีพนักงานทั้งสิ้นประมาณ 1033 คน เลิกจ้างทันที 10% จึงเท่ากับเลิกจ้างประมาณ 1 ร้อยคนเศษ

ตามมาด้วยบริษัทแอปฯ เทรด Robinhood

ผู้ให้บริการแอปพลิเคชั่นเทรดหุ้นและคริปโต ได้ออกมาประกาศว่าช่วงปีที่ผ่านมาบริษัทเติบโตเร็วมาก และตอนนี้ขอประกาศที่จะลดจำนวนพนักงานของบริษัทลง 10% หรือ 300 คนเศษ จากพนักงานทั้งสิ้นกว่า 3,400 คน

จากสหรัฐฯ ไล่ลงมาทางด้าน บราซิล

วันที่ 3 มิถุนายน 2022 เว็บไซต์ Coindesk รายงานว่า บริษัท 2TM ผู้ Holding company ของบริษัท Mercado Bitcoin ผู้ให้บริการกระดานเทรดคริปโตฯ รายใหญ่ที่สุดในประเทศบราซิล ประกาศเลิกจ้างพนักงานทันทีจำนวน 80 คนจากทั้งหมด 580 คน คิดเป็นสัดส่วน 13% โดยให้เหตุผลเรื่องแนวโน้มปัญหาเศรษฐกิจโลก อัตราดอกเบี้ยพุ่ง และภาวะเงินเฟ้อที่รุนแรง ทำให้บริษัทต้องเริ่มปรับตัว

ตามมาด้วย Buenbit (บูเอนบิท) ผู้ให้บริการแอปฯ เทรดคริปโต ของ อเจนตินา

ประกาศเลิกจ้างพนักงานจำนวน 80 คน จากพนักประมาณ 180 คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 45% ด้วยเหตุผลเดียวกัน คือ ปรับตัวรับมือกับปัญหาเศรษฐกิจและการเงินโลก

ข้ามมาทางฝั่งยุโรป

BitMex กระดานเทรดคริปโต และสัญญาซื้อขายล่วงคริปโตของฝรั่งเศษ ก่อตั้งปี 2014 ก็ได้ประกาศเลิกจ้างพนักงานจำนวน 75 คน จากทั้งสิ้น 225 คน คิดเป็นสัดส่วนเลิกจ้างถึง 30% โดยมีผลไปแล้วเมื่อเดือน เมษายน ที่ผ่านมา โดยทางบริษัทยืนยันว่าจะดูแลผลประโยชน์ชดเชยแก่พนักงานที่ถูกเลิกจ้างอย่างเป็นธรรม

สรุป

จากเหตุผลที่บริษัทด้านกระดานเทรดคริปโตเคอร์เรนซี่ต่าง ๆ ยกมาอ้างในการเลิกจากพนักงานนั้น จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าความกังวลต่อสภาวะเศรษฐกิจและการเงินโลก รวมไปถึงความขัดแย้งระหว่างประเทศ เช่น รัสเซียและยูเครน ส่งผลต่อความมั่นใจต่อการลงทุนในตลาดคริปโต

และเมื่อประชาชนมีความมั่นใจในตลาดนี้น้อยลง ก็จะพากันแห่เทขายคริปโตฯ กลับมาถือเงินสด รวมไปถึงผู้สนใจหน้าใหม่ ๆ ก็ชะลอการเข้ามาลงทุนในตลาดนี้

เหล่านี้จึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อกิจการที่ให้บริการด้านการเทรดคริปโต เนื่องจากรายได้หลักของพวกเขามาจากค่าธรรมเนียมการเทรดนั่นเอง

อย่างไรก็ดี ท่ามกลางข่าวร้ายในตลาดคริปโต ก็ยังมีข่าวการเติบโตของบางบริษัท Binance กระดานเทรดคริปโตที่มีปริมาณการซื้อขายอันดับ 1 ของโลก ได้ก่อตั้ง Binance Lab ขึ้นเพื่อเป็นบริษัทด้านการลงทุนในกิจการอื่น และมีแผนที่จะทุ่มเงินลงทุน 500 ล้านดอลล่าร์ในกลุ่มธุรกิจ Web3 ซึ่งเป็นเว็บไซต์ที่อาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชนในการทำงาน โดยไม่จำกัดว่าจะต้องเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการเทรดคริปโตเคอร์เรนซี่