ไอเดียสร้างแบรนด์สินค้าเงินล้าน ไม่ต้องลงทุนสักบาทผ่านระบบ Crowdfunding

* Disclaimer : ไม่ต้องลงทุนสักบาท หมายถึง ไม่ต้องเสี่ยงลงทุนผลิตและสต็อกสินค้าออกไปก่อน ทั้งนี้ไม่ได้หมายรวมถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ในการทำงาน อาทิ ค่าการตลาด ค่าโฆษณา เป็นต้น

เมื่อคุณซื้อมาขายไปถึงจุดหนึ่งก็จะต้อง ‘สร้างแบรนด์’ ของตัวเองเพื่อโอกาสในการมีกำไรที่สูงขึ้น และสร้างความมั่นคงให้ธุรกิจโดยการมี Brand เป็นสินทรัพย์ของตนเอง

แต่การสร้างแบรนด์มีความเสี่ยง และใช้เงินลงทุนสูงกว่า ความเสี่ยงอันสูงสุด คือ การผลิตสินค้าแบรนด์ตัวเองมักมียอดสั่งขั้นต่ำจากโรงงาน การผลิตสินค้ามาสต็อกแล้วยังขายไม่ได้ตามที่คาดหวังจะทำให้เกิดปัญหาสภาพคล่อง และธุรกิจจะเดินหน้าต่อได้ยาก

ปัญหาเหล่านี้มีมาให้ได้ยินกันบ่อย ๆ แล้วคนอยากสร้างแบรนด์ควรทำอย่างไรดี? ข่าวดีก็คือวันนี้คุณสามารถ สร้างแบรนด์สินค้าเงินล้านไม่ต้องลงทุนสักบาทผ่านระบบ Crowdfunding

Crowdfunding คืออะไร?

Crowdfunding คือ การระดมทุนจากมวลชน และเป็นกิจกรรมที่มีมานานเป็นร้อยปีแล้ว โดยในสมัยก่อนคนกลุ่มแรก ๆ ที่ทำ Crowdfunding คือ นักเขียน ก่อนที่จะเริ่มเขียน เขาจะทำการประชาสัมพันธ์ว่าเขาจะแต่งหนังสือเรื่องนั้น ๆ และหากมีคนชำระเงินเข้ามาถึงปริมาณที่กำหนดไว้ ผู้เขียนจึงจะลงมือเขียนและตีพิมพ์หนังสือออกมา ซึ่งโมเดลแบบนี้อาจฟังดูคุ้นกว่าถ้าจะเรียกว่า Pre-order

กรณีศึกษา Crowdfunding เล็ก ๆ ที่ดิสรัปต์ธุรกิจเสื้อยืดไปทั้งโลก


เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในปีฤดูใบไม้ผลิปี 2011 ณ Rhode Island สหรัฐอเมริกา เมื่อ Walker Williams และ Evan Stites-Clayton อยากผลิตเสื้อยืดเป็นของที่ระลึกให้กับบาร์โปรดในเมืองของเขาที่กำลังจะปิดกิจการ แต่การผลิตเสื้อยืดจำนวนมาก โดยไม่รู้ว่าไซส์ไหนจะขายดี และจะขายได้กี่ชิ้น เป็นความเสี่ยงทางการเงินอย่างมากสำหรับพวกเขา

Walker Williams และ Evan Stites-Clayton จึงสร้างเว็บไซต์ง่าย ๆ เพื่อให้คนมาเลือกเสื้อ สี ไซส์ และชำระเงิน โดยกำหนดเป้าที่ 200 ชิ้นจึงจะเริ่มผลิต สุดท้ายพวกเขามีออเดอร์ถึง 400 ชิ้น โดยรู้ไซส์และสีที่ลูกค้าต้องการเป็นรายคนทุกชิ้น

หลังจากแคมเปญประสบความสำเร็จและถูกพูดถึงในเมืองของเขา มีผู้คนติดต่อมาขอทำแคมเปญจำนวนมาก Williams และ Stites-Clayton จึงตัดสินใจผันตัวเองจาก คนที่เคยทำ Crowdfunding ระดมทุนไปผลิตเสื้อยืด สู่ เจ้าของแพลทฟอร์ม Crowdfuning เสื้อยืดของตนเอง

แพลทฟอร์มดังกล่าวมีชื่อว่า TeeSpring เป็นสองคำระหว่าง Tee จาก T-shirt และ Spring หรือ ฤดูใบไม้ผลิ ที่พวกเขาสร้างแคมเปญแรกขึ้นมา

วันนี้ผู้คนจากทั่วโลกสามารถเข้าไปสร้างแคมเปญ ออกแบบเสื้อยืด และนำแคมเปญไปโปรโมทเพื่อสะสมยอดสั่งซื้อให้ถึงเป้าก่อนที่จะผลิตสินค้าโดยที่มีความเสี่ยงน้อยมาก อีกทั้ง TeeSpring ยังทำหน้าที่จัดส่งสินค้าเสมือนเป็น Dropship ไปในตัว – นี่เป็นเพียงตัวอย่างเว็บไซต์ Crowdfunding จาก 1 นิชเท่านั้น

กรณีศึกษาคนไทยที่ระดมทุนสร้างแบรนด์ผ่านระบบ Crowd Funding สำเร็จ

เว็บไซต์แพลทฟอร์ม Crowdfunding รายใหญ่ ได้แก่ Kickstarter.com และ IndieGogo.com โดย IndieGogo รองรับผู้สร้างแคมเปญจากประเทศไทย และมีคนไทยที่ประสบความสำเร็จจากการทำ Crowdfunding ก่อนผลิตสินค้าแบรนด์ตัวเองมาแล้ว

หนึ่งในนั้น คือ คุณ รสลิน จรรยาศักดิ์ กับกระเป๋าสตางต์ยี่ห้อ MO โดย Pain point ของเธอและเพื่อน ๆ คือ มีปัญหาในการจัดเก็บและค้นหาบัตรต่าง ๆ ในกระเป๋าสตางค์ เธอจึงออกแบบ กระเป๋าสตางค์สำหรับสายพกบัตรเป็นหลัก ลองผิดลองถูกอยู่เกือบครึ่งปี

พอได้ดีไซน์ที่ต้องการแล้วเกิดอะไรขึ้น

ต้องใช้เงินเฉียดล้านบาท ทุนไม่พร้อมที่จะผลิต และจะผลิตเท่าไรก็ไม่รู้ จะขายได้ไหม คนต้องการใช้จริง ๆ หรือไม่ ไม่ใช่ว่าสั่งผลิตมาหมื่นชุด สรุปคิดไปเองว่าตลาดต้องการ เหล่านี้คือความเสี่ยงของคนทำแบรนด์

แต่โชคดีที่เพื่อนของ คุณ รสลิน จรรยาศักดิ์ แนะนำให้ลองใช้วิธี Crowdfunding ผ่านเว็บไซต์ IndieGogo.com เธอจึงดูตัวอย่างคนที่ทำแคมเปญสำเร็จแล้วทำนำไปต่อยอดสร้างแคมเปญของตนเอง เปิดระดมทุนต้องการเงิน 25,000 ดอลลาร์ ภายใน 35 วัน ได้ทุน 28,000 ดอลลาร์ หรือ ประมาณ 8 แสนกว่าบาท เกินที่ขอไป และกว่า 50% ที่เป็น Backer คือคนไทย

ประโยชน์ของระบบ Crowdfunding!

  • ช่วยลดความเสี่ยงรอบด้านในการทำธุรกิจ
  • หากระดมทุนไม่สำเร็จ แพลทฟอร์มจะคืนเงินให้ Backer เอง
  • หากระดมทุนสำเร็จ ระบบขอส่วนแบ่งจากยอดระดมทุนเล็กน้อย อาทิ 5%
  • คุณไม่ตกเป็นสถานะลูกหนี้ หรือลูกน้องใด ๆ ทั้งสิ้น Backer ไม่ได้ได้หุ้นหรือเงิน แต่อาจได้เป็นของชำร่วย และสินค้า

เว็บไซต์ Wikipedia รายงานว่าในปี 2015 โมเดล Crowdfunding ก่อให้เกิดการระดมทุนไปแล้วทั่วโลกสูงถึง 34,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.05 ล้านล้านบาท

รวมบทความเกี่ยวกับ หาเงินออนไลน์ทั้งหมด ที่นี่