Content Marketing เพื่อบริหาร Blog ในยุค Social Network SEO ครองหน้า 1 Google Search

The CEO Blogger Post 1312001

ตลอดปี 2013 ที่ผ่านมาจะเห็นว่า Youtube กับ Facebook เป็น Content ที่มาแรงแสดงผลใน Search engine แทบจะครองหน้าหนึ่ง หลายๆคำค้นหาถูกแสดงผลด้วย Youtube content และสินค้าและบริการถูกแสดงผล Facebook page จนบางคนถึงกับพูดเชิงกระทบกระเทียบว่าต่อไปไม่ต้องมีเว็บไซต์แล้ว ใช้ Facebook page ทำมาหากินแทนเว็บไซต์ไปเลย

สำหรับผม ไม่ว่า Trend เครื่องมือทำ SEO ตัวไหนจะมาแรงผมก็ไม่ได้ให้ความสนใจศึกษาถึงเหตุผล เพราะกว่าคุณจะรู้การทำงานของ Search engine algorithm ของ Google ในช่วงเวลาหนึ่งๆได้ ถึงตอนนั้น Algorithm ที่คุณเข้าใจก็จะถูกพัฒนาต่อไปเป็นอีก Trend แม้ว่าช่วงใด Youtube จะมาแรง หรือ Facebook page จะมาแรง แต่การมีเว็บไซต์ และ Blog content คุณภาพดียังคงเป็นที่สุดของการสร้าง Internet business platform ที่คุณเป็นเจ้าของโดยแท้จริง

Social Network เป็นเพียง 3rd Party Platform

Social network ได้แก่ Facebook, LinkedIn, Google+ และ ฯลฯ เป็นเครื่องมือบริการจากบุคคลที่สาม หรือ 3rd Party คุณไปสร้าง Content บน Platform ของเขาซึ่งคุณไม่มีสิทธิ์เต็มร้อยใน Content ของคุณ เจ้าของ Platform สามารถ เปลี่ยนแปลงรูปแบบ, โยกย้ายเนื้อหา, ลบ, บล็อค, และแบนน์ คุณได้ตลอดเวลา

Social network ไม่สามารถแทนเว็บไซต์ได้ หน้าที่สำคัญของ Social network คือ Brand awareness หรือการโปรโมทแบรนด์, โปรโมทสินค้า และบริการ, การอัพเดทข่าวสาร, ข้อความสั้น, และการสื่อสารสดกับลูกค้าหรือผู้ติดตามคุณ แต่ Core business และ Core content ของคุณต้องอยู่ในเว็บไซต์ และ Blog เสมอ

ใช้ Social Network เพื่อส่ง Traffic ไปยัง Blog

bmBrian Moran, เจ้าของเว็บ Get10000Fans.com บอกว่า:

อย่าเก็บ Audience ไว้บนเฟซบุ๊คแต่ให้พาเขาออกจากเฟซบุ๊คมายังเว็บไซต์ให้เร็วที่สุด

หลายคนทำสิ่งที่ตรงกันข้าม พวกเขาใช้ Facebook page เป็นทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่หน้าบ้าน, หน้าร้าน, สถานที่รับชำระเงิน, และ แจ้งการจัดส่งสินค้า Traffic ทั้งหมดถูกกักไว้ใน Facebook.com และทำให้ธุรกิจหรือแบรนด์ไม่มีเอกภาพ กล่าวคือ ถ้ามีชื่อร้านค้าก็เปรียบเสมือนร้านที่ไม่ได้จดโดเมนเนม เป็นชื่อร้านที่ห้อยท้ายสกุล Facebook.com.ชื่อร้านคุณ อีกทีหนึ่ง

วิธีใช้ Facebook เพื่อพัฒนาธุรกิจอินเตอร์เน็ตอย่างแท้จริง คือ โปรโมทธุรกิจด้วย Content marketing แล้วโพสต์ลิงค์ลงใน Facebook page เพื่อส่ง Traffic ออกจาก Facebook ให้เร็วที่สุดและมากที่สุดมายังเว็บไซต์หลักที่เป็น ศูนย์บัญชาการ ตัวจริงของคุณ

  • ถ้าคุณมี สินค้า หรือ บริการใหม่ๆ สร้าง Content เกี่ยวกับสิ่งนั้นขึ้นมา แล้วโพสต์ลิงค์ลงใน Facebook
  • ถ้าคุณมี กิจกรรมใดๆ สร้าง Content เกี่ยวกับกิจกรรมนั้นขึ้นมา แล้วโพสต์ลิงค์ลงใน Facebook
  • ถ้าคุณต้องการสร้างฐานสมาชิก Email newsletter สร้าง Opt-In Email Form แล้วโพสต์ลิงค์ลงใน Facebook

นี่คือวิธีใช้ Facebook สร้างธุรกิจให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ใช่เห็นว่า Facebook SEO แรงแล้วจะละทิ้งการทำเว็บไซต์ย้าย Platform ทั้งหมดไปอยู่บน Facebook แต่เพียงอย่างเดียว แบบนั้นมีความเสี่ยงสูงที่ธุรกิจของคุณจะหายสาบสูญไปจากโลกออนไลน์ในข้ามคืนหากมีการเปลี่ยนแปลงใดๆเกิดขึ้นบน Facebook (และ Social media อื่นๆ)

Content Marketing คืออะไร

Content marketing is the marketing and business process for creating and distributing valuable and compelling content to attract, acquire, and engage a clearly defined and understood target audience with the objective of driving profitable customer action

From: Epic Content by Joe Pulizzi

Content marketing คือการผลิต เนื้อหาคุณภาพสูง (บทความ, คลิปเสียง, วิดีโอคลิป, อินโฟกราฟฟิค ฯลฯ) ที่ตรงกลุ่มผู้อ่านที่มีศักยภาพที่จะเป็นผู้ซื้อ (Potential buyer) โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ผู้อ่านดำเนินการใดๆตามวัตถุประสงค์ของเนื้อหานั้นๆ

อธิบายอีกแบบในหลักที่ผมเขียนไว้ใน Ebook The Art of Blog คือ Content marketing เป็นการขายโดยไม่ได้ขายตรงๆ ใช้วิธีสร้าง relationship กับผู้อ่านผ่านเนื้อหาและก่อให้เกิด Reach & Conversion ในรูปของ สมัครสมาชิก, สมัครใช้บริการ, สั่งซื้อสินค้า, ร่วมบริจาค, ร่วมสมัครแข่งประกวด ฯลฯ แต่สิ่งที่เป็นหัวใจหลักของ Content marketing คือ เนื้อหาที่มีประโยชน์, สร้างแรงใจและผู้อ่านสามารถนำไปพัฒนาตัวเองในชีวิตจริงได้

Content Marketing กับ Blogger ไทย

ปัจจุบัน Blogger และ Internet marketer ไทยมองว่า Content marketing เป็นเรื่องไกลตัว ส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับ SEO Content หรือ Content ที่ทำขึ้นเพื่อเอาใจ Google โดยการเขียนบทความที่มีจำนวนคำระหว่าง 200-300 คำต่อบทความ แล้วทำออกมาหลายๆบทความ โดยใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องลงไปเพื่อให้ถูก Pick-up โดย Search engine.

ถามว่าวิธีนี้ได้ผลไหม? มันก็ได้ผล…

  • วิธีนี้ทำให้คุณสร้าง Search index ได้มาก แต่! คุณไม่ได้สร้าง Audience relationship
  • วิธีนี้เพิ่มจำนวนคลิ๊ก Google AdSense ให้คุณได้ แต่! ไม่สามารถสร้างธุรกิจที่คุณจะมี Brand ของตัวเองไว้ขาย

การสร้าง SEO Content บทความสั้น 10 บทความ กับ Professional Content 1 บทความใช้เวลาเท่ากัน แต่ Impact ที่มีออกไปสู่ตลาดนั้นต่างกัน

แนวทางการทำ Content Marketing

หัวใจของ Content Marketing คือ Story การเล่าเรื่อง

  • โฆษณาโค้ก กับแคมเปญการสลักชื่อลูกค้าลงบนกระป๋องและเรื่องราวน่าประทับใจในการส่งโค้กบอกคนที่คุณรัก
  • โฆษณาเครื่องดื่มชูกำลัง ที่ไม่ได้โฆษณาตัวสินค้าแต่เล่าเรื่องที่สร้างแรงบันดาลใจในสังคม
  • โฆษณาโทรศัพท์ ที่ไม่ได้ขายโทรศัพท์ แต่เล่าเรื่องความผูกพันระหว่างผู้คนและประสบการณ์ดีๆอันเกิดจากการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ

เหล่านี้คือ Content marketing การขายที่ไม่ได้ขาย แต่สร้างความเข้าใจในตัวสินค้าผ่านความรู้สึกซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่ยกระดับสินค้าไปสู่ความเป็น Brand ที่มีคุณค่าทางใจจนประเมินมูลค่าไม่ได้

สำหรับ Blogger, Internet marketer, Freelancer, E-Commerce owner ก็สามารถนำหลักการของ Content marketing มาใช้กับเว็บไซต์ของตนเองได้ อาทิ The CEO Blogger จะออกฟรี Mini Ebook มาเป็นระยะ และล่าสุดคือ Series article ชุด E-Commerce Dropshipping เป็นบทความยาวแล้วแบ่งออกเป็น 5 บทลงในบล็อกแล้วจัดลงเป็น Mini Ebook นำไปโพสต์แจกใน Ebooks.in.th แบบนี้ก็เป็น Content marketing

แต่แนวทางทำ Content marketing ที่ได้รับความนิยมสูงสุดคือ การทำชุดบทความในรูปของ Email newsletter ผ่าน Email list.

Build Your List – Build Your Tribe

Blogger, Internet marketer, และ Internet entrepreneur ในต่างประเทศให้ความสำคัญกับ Email list อย่างมาก บางคนกล่าวเชิงเปรียบเทียบว่าไม่มี Google ไม่เป็นไร แต่ไม่มี Email list อยู่ไม่ได้ คนทำธุรกิจอินเตอร์เน็ตจำเป็นต้องเก็บ Email list ของผู้อ่านที่ติดตามเว็บไซต์เพราะเป็นเครื่องรับประกันว่าพวกเขาจะสามารถสื่อสารกับผู้อ่านได้ตลอดเวลา หากวันหนึ่ง Facebook ล่ม, Host ดับ, Google หายไปจากโลก ฯลฯ แต่ Email ของผู้อ่านทุกคนยังอยู่และเจ้าของเว็บไซต์จะไม่ต้องเริ่มสร้างฐานผู้อ่านจากศูนย์หากเขาจะต้องเริ่มต้นทำเว็บไซต์ใหม่อีกครั้ง

เหตุการณ์นี้เคยเกิดกับ Pat Flynn เจ้าของเว็บ Smart Passive Income มาแล้วในวันที่ Host มีปัญหาและเว็บไซต์ล่มไปถึง 2 สัปดาห์ แต่ระหว่างนั้นเขาสามารถสื่อสารส่งข่าวกับผู้อ่านที่ Subscribe email list ของเขาได้อย่างสม่ำเสมอผ่านทางอีเมล์

แต่วัตถุประสงค์หลักของ Email list คือการพัฒนา Relationship กับผู้อ่านโดยนักธุรกิจอินเตอร์เน็ตที่เป็นเจ้าของ Niche site ส่วนมากนิยมสร้างชุดบทความพิเศษที่ไม่มีใน Blog อาทิ Free mini-ebook, Free video course, Email coaching ฯลฯ ให้กับสมาชิกที่สมัคร Email list ของ Blog นั้นๆ โดยอาศัยฟังชั่นที่เรียกว่า Autoresponder ของผู้ให้บริการ Email list ทำหน้าที่จัดส่งชุดบทความทางอีเมล์ตามแผนที่วางไว้หลังจากมีผู้เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกกับ เว็บไซต์/บล็อก

ประสบการณ์ทำ Content Marketing ผ่าน Email List ของผม

Opt-in the ceoประสบการณ์ล่าสุดในการทำ Content marketing ผ่าน Email list ของผมคือ 7-Day Email Coach พร้อมตัวอย่าง Ebook The Freedom Hacker อิสรภาพทางการงาน ซึ่งได้รับผลตอบรับที่น่าพอใจ เมื่อมี Visitor ใหม่ๆมายังเว็บ The CEO Blogger หลายคนตัดสินใจที่จะสมัคร Email list ซึ่งก็จะได้รับ 1) ตัวอย่างอีบุ๊ค The Freedom Hacker และ 2) บทความโค๊ชชิ่งทั้ง วิธีคิด และ ปฏิบัติ สู่โลกธุรกิจอินเตอร์เน็ต โดยในบทสุดท้ายจะเป็นบทสรุปและลิงค์ไปยัง Sales page ของอีบุ๊ค The Freedom Hacker เป็นการเกิด Conversion 2 ลักษณะ

Conversion ที่ 1: คือการเปลี่ยน Visitor ไม่ว่าจะมาจาก Facebook หรือจาก Google search engine หรือจาก Backlink ธรรมชาติใดๆ (ถ้ามี) ไปเป็นผู้สมัคร Email list และสร้างโอกาสให้ผู้อ่านได้รู้จักผม รู้จักบล็อก และรู้จักแนวทางของบล็อก ผ่านบทความพิเศษ 7 ตอน

Conversion ที่ 2: ในบทสุดท้าย คือบทสรุปที่บรรจุลิงค์ไปยัง Sales page เป็นโอกาสสู่ Profitable conversion กล่าวคือเมื่อผู้อ่านได้ประโยชน์จาก Email coaching แล้วตัดสินใจที่จะไปต่อยัง Sales page และตัดสินใจที่สุดที่จะสั่งซื้อ Ebook ณ จุดนี้คือ Sales closed จบภารกิจของ Content marketing สำหรับโครงการ Ebook The Freedom Hacker

อันนี้เป็นตัวอย่างการทำ Content marketing เป็นรายโปรดักท์ ทั้งนี้กลยุทธ์ Content marketing สามารถประยุกต์ใช้ได้หลายกรณี แต่ขอให้จำไว้เสมอว่านี่คือกลยุทธ์ระยะยาว การสร้าง Relationship กับผู้อ่านเป็นสิ่งที่ต้องทำตลอดไปครับ

สรุป

ในขณะที่หลายคนให้ความสำคัญกับการเอาชนะหรือสร้างอันดับใน Google search engine เพื่อให้ได้ Traffic เข้าเว็บเยอะๆ แต่บางครั้งสำหรับบางประเภทเว็บไซต์ อันดับ และ ปริมาณ Traffic ไม่สำคัญเท่า Conversion โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Niche site, Niche eCommerce, Niche hobby site ฯลฯ ซึ่งเป็นตลาดเฉพาะกลุ่มและมีจุดมุ่งหมายการมาเพื่อบริโภคเนื้อหาและอุดหนุนสินค้าและบริการของเว็บอยู่แล้วคุณก็ไม่จำเป็นต้องไปหาคนเข้าเว็บเป็นแสนๆคนเพื่อจะทำเงิน เพราะคนแสนคนที่ไม่ใช่ Target audience ของ Niche ไม่สามารถที่จะ Convert เป็นรายได้อยู่วันยังค่ำ

ดังนั้นภารกิจของ Niche site เฉพาะทางคือ Build an audience หรือ การสร้างฐานผู้อ่าน โดยให้ย้าย SEO มาเป็นหนึ่งในวิธีสร้างฐานผู้อ่าน แต่อย่าเอา SEO ไปเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของการทำเว็บ การโปรโมทเว็บยังสามารถทำผ่าน เว็บบอร์ด, โซเชียลมีเดีย, หรือแม้แต่ Ads ต่างๆ (Facebook Ads, Google AdWord, Banner) – สุดท้ายอย่าลืมว่าทุกๆวิธีในการโปรโมทเว็บนั้นมีจุดมุ่งหมายเพื่อ Conversion ไม่อย่างใดก็อย่างหนึ่งระหว่าง Email subscriber conversion หรือ Sales conversion