IKEA เป็นหนึ่งในผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์รายใหญ่อันดับต้น ๆ ของโลก ก่อตั้งในปี 1943 โดย Ingvar Kamprad ภายใต้ปรัชญา ให้ลูกค้าเข้าถึงเฟอร์นิเจอร์คุณภาพดีในราคาประหยัด จุดเด่นของ IKEA คือ การออกแบบพื้นที่ขายคล้ายคลังสินค้าขนาดใหญ่ ให้เดินเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์แทบทุกชนิดที่โลกนี้จะมีให้อย่างอิสระเสรี และนำกลับไปประกอบด้วยตนเองสไตล์ DIY (Do it yourself/ Self services)
ประสบการณ์การซื้อเฟอร์นิเจอร์สไตล์ IKEA ได้รับความนิยมอย่างมากจนสามารถขยายสู่ 411 สาขาทั่วโลก และมีรายได้รวม 42,000 ล้านเหรียญ (สถิติเดือน พฤศจิกายน 2017) แต่กระนั้น พฤติกรรมของนักช็อปฯ เฟอร์นิเจอร์รุ่นใหม่ในอเมริกาเริ่มมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ
อ้างอิงจาก New York Times ยอดขายหน้าร้านของ IKEA ในสหรัฐอเมริกามส่งสัญญาณการเติบโตในอัตราที่ลดลงนับตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา โดยปี 2012 โต 8% ปี 2013 โต 7% ในขณะที่ปี 2014 โตเพียง 4.2% ในขณะที่การวิจัยและคาดการของสำนักข้อมูล IBISWorld ระบุว่า ตลาดเฟอร์นิเจอร์ในสหรัฐอเมริกามีโอกาสโตต่อเนื่องรวมแล้วไม่น้อยกว่า 40% ระหว่างปี 2014 – 2019 — หากตัวเลขการเติบโตของตลาดเป็นเช่นนี้ แล้วยอดขายที่ลดลงของ IKEA เกิดจากอะไร? คำตอบคือ พฤติกรรมผู้บริโภคย้ายไปสู่ E-Commerce
ถึงเวลายักษ์ใหญ่ปรับตัว
แหล่งข่าวจาก Business Insider รายงานว่าทีมผู้บริหารของ IKEA รับรู้ถึงยอดขายที่เติบโตในอัตราลดลงไม่ใช่เพราะความเสื่อมความนิยมของแบรนด์ แต่เพราะพฤติกรรมผู้บริโภคสหรัฐฯ ว่าไปทางออนไลน์แน่ ๆ แล้ว โดยคราวนี้ถึงคราวที่ตนเองต้องปรับตัวขนาดใหญ่เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคให้ทันท่วงที
เริ่มจากการเข้าซื้อกิจการ TaskRabbit เป็นเว็บไซต์แพลทฟอร์มและแอปพลิเคชั่นแบบ On-Demand-Service ที่คนสามารถว่าจ้างงานแบบ ฟรีแลนซ์/เอาต์ซอส ประเภท รับ ส่ง เคลื่อนย้าย ประกอบ ซ่อม เช็ค งานที่เกี่ยวกับบ้านและเฟอร์นิเจอร์
ตรงนี้ถือเป็นกลยุทธ์ที่ชาญฉลาดของทีมผู้บริหาร เพราะยังคงรักษาจุดขายของตนอย่างชัดเจนว่าขายเฟอร์นิเจอร์แบบ DYI แต่นำผู้ที่เชี่ยวชาญกว่าในบริการด้าน จัดส่งและประกอบเฟอร์นิเจอร์ มาเป็นพันธมิตรในเครือ
ในส่วนของออนไลน์ — IKEA มีแผนที่จะเชื่อมต่อ หรืออาจร่วมลงทุนในเว็บไซต์ประเภท E-Commerce Marketplace ที่เชี่ยวชาญและมีฐาน Website traffic จำนวนมากอยู่แล้วในการเป็นช่องทางกระจายสินค้า ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่คล้าย Walmart กำลังทำอยู่ คือการไล่ซื้อเว็บไซต์หรือเป็นพันธมิตร E-Commerce Marketplace เพือขายสินค้าของ Walmart ผ่านออนไลน์ และให้สามารถต่อสู่กับคู่แข่งสำคัญอย่าง Amazon.comw ได้
3 Key Business Concept ของ IKEA ในปี 2018
1. Convenience
IKEA ดำเนินธุรกิจขายเฟอร์นิเจอร์แบบซื้อไปประกอบเอง ซึ่งเป็นที่ตื่นเต้นและสนุกสนานสำหรับพ่อบ้านและแม่บ้านในสมัยก่อน แต่วันนี้คนอเมริกันรุ่นใหม่ ไม่ปรารถนาจะทำเช่นนั้นอีกแล้ว พวกเขาต้องการความรวดเร็ว สะดวกสบาย ไปพร้อมกับความประหยัด IKEA จึงตอบสนองความต้องการนี้โดยจับมือกับ TaskRabbit ดังที่กล่าวไป
2. Choice
พฤติกรรมของผู้บริโภคสมัยใหม่คือการซื้อออนไลน์ แม้จะไปดูที่หน้าร้าน แต่กลับมาสั่งออนไลน์ก็มีเช่นกัน IKEA จึงปรับกลยุทธ์สร้าง ทางเลือก ในการซื้อสินค้าให้ผู้บริโภคทุกประเภท
3. Experience
จุดเด่นของ IKEA คือการสร้างห้องตัวอย่างที่ลงเฟอร์นิเจอร์จริงในพื้นที่ขาย นั่นคือประสบการณ์การซื้อสินค้าของ IKEA เสมอมา ดังนั้น IKEA จะไม่ทิ้งจุดเด่นตรงนี้ และเปิดให้ลูกค้าเข้ามาชมและชิมประสบการณ์การลอง นั่ง นอน และอาศัยในห้อง Mock up เฟอร์นิเจอร์ของ IKEA ก่อนตัดสินใจซื้อ โดยจะซื้อหน้าร้านก็ได้ หรือกลับไปซื้อออนไลน์ก็ได้ตามข้อ 2 และถ้าไม่ต้องการประกอบเองก็มีบริการในข้อ 1