Elon Musk

5 คมความคิด ปั้นธุรกิจแบบสุดยอดแบบ Elon Musk นักธุรกิจคิดไกลไปนอกโลก

หากให้เอ่ยชื่อ นักธุรกิจ หรือซีอีโอ อันดับต้นๆ ของโลก ชื่อที่คุ้นเคยคงไม่พ้น สตีฟ จ็อบส์ (Apple), มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก (Facebook), เจฟฟ์ เบซอส (Amazon), บิล เกตส์ (Microsoft) แต่ซีอีโอมาแรงที่กำลังเป็นที่พูดถึงหนักมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมาคือ ‘อีลอน มัสก์ (Elon Musk)’

ต่อให้คุณไม่รู้จัก แต่ผมเชื่อว่าเราเคยใช้ผลิตภัณฑ์ของเขามาแล้วทั้งสิ้น แม้แต่ผมเองก็ใช้โดยไม่รู้มาก่อนว่าตาคนนี้เป็นผู้ร่วมก่อตั้งมันขึ้นมา – นั่นคือ Paypal เว็บไซต์รับส่งเงินออนไลน์ที่ทำให้การโอนเงินระหว่างประเทศเป็นเรื่องง่าย อีลอน มัสก์ ขาย Paypal ให้ Ebay ไปในราคากว่า 1.4 พันล้านเหรียญ หรือประมาณกว่า 4 หมื่นล้านบาท ทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐีและนำเงินไปลงทุนกับธุรกิจสุดล้ำมากมายในปัจจุบัน

ธุรกิจล้ำๆ ของ อีลอน มัสก์

หลังจากได้เงินนับพันล้านเหรียญมาครอง แทนที่จะใช้ชีวิตชิวๆ เขากลับมุ่งลุยงานหนักกับการร่วมก่อตั้งและบริหารธุรกิจไฮเทคสุดจินตนาการมากมาย แต่ละอย่างล้วนใช้เงินลงทุนสูงและกว่าจะได้ผลลัพธ์ยังต้องใช้เวลาอีกหลายปี  อาทิ…

Tesla Motors: ธุรกิจรถยนต์พลังงานไฟฟ้า เขาต้องการลดมลพิษที่เกิดจากการใช้น้ำมันเป็นเชื้อเพลิง โดยมีเป้าหมายที่จะเปลี่ยนรถยนต์ทุกคันบนโลกนี้ให้เป็นรถยนต์ไฟฟ้าแม้จะต้องรับมือกับผู้มีอิทธิพลมากมายที่อาจเสียผลประโยชน์ในธุรกิจน้ำมันก็ตาม เขากล่าวไว้ในปี 2011 ด้วยคำประกาศสุดท้าทายว่า “We will not stop until every car on the road is electric

el2

Solar City: ธุรกิจพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับสำนักงานและบ้าน ก่อตั้งเพื่อสร้างแหล่งพลังงานตามธรรมชาติสำหรับการใช้งานในชีวิตประจำวัน

Hyper Loop: โครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่ เป็นการเดินทางระหว่างเมืองหลวงด้วยพาหนะผ่านท่อด้วยความเร็วสูง โดยอัตราความเร็วสูงสุดของพาหนะนี้คือ 1,220 กม./ชม. เกือบเท่าความเร็วเสียงคือ 1,236 กม./ชม.

OpenAI: อีลอน มัสก์ เป็นคนหัวไฮเทคและมีความคาดหวังที่จะเห็น Artificial intelligence หรือ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ เฉลียวฉลาดพอที่จะทำงานแทนมนุษย์ได้ และเพื่อให้มาทำหน้าที่บางอย่างเพื่อสร้างความปลอดภัยในชีวิตมากขึ้น อาทิ การใช้ AI ขับรถยนต์แทนคนขับรถที่เป็นมนุษย์เป็นต้น 

นอกจากนั้นก็ยังมีอีกหนึ่งธุรกิจที่เขาปลุกปั้นมันมากับมือเพื่อตอบสนองความฝันของตัวเองที่ปรารถนาจะมีธุรกิจท่องเที่ยวระหว่างดวงดาวที่เปิดให้บริการสำหรับคนทั่วไป ซึ่งถึงแม้จะดูเป็นฝันที่ยิ่งใหญ่ แต่เขาก็ทำให้มันเกิดขึ้นได้จริงภายใต้นามของ SpaceX บริษัทเอกชนรายแรกที่จัดเที่ยวบินไปกลับระหว่างโลกกับสถานีอวกาศได้ และมี NASA เป็นลูกค้าสำคัญในบริการระบบขนส่งวัสดุอวกาศที่ทำให้สามารถนำจรวดกลับมาใช้ใหม่ได้อย่างไม่จำกัด

ชายหนุ่มในวัย 44 ปี สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจชั้นนำระดับโลกได้มากกว่า 1 อย่าง ซึ่งทุกอย่างที่เขาทำนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนให้ก้าวไปสู่ความสะดวกสบายที่มากขึ้น เขาทำแบบนี้ได้อย่างไร วันนี้จะพาทุกคนไปสรุป 5 คมความคิด อีลอน มัสก์ ที่ทำให้เขาทำลายทุกข้อจำกัดและก้าวไปสู่การเป็น สุดยอดซีอีโอ

คมความคิดที่ 1 : ตราบชีวิตยังมีลมหายใจ ต้องไม่มีคำว่ายอมแพ้

สิ่งเดียวที่ทำให้เราแตกต่างจากคนที่ตายไปแล้วก็คือ ‘ลมหายใจ’ จะมีประโยชน์อะไรที่จะมัวเอาแต่กลัวความพ่ายแพ้ตราบเท่าที่เรายังมีชีวิตอยู่ ความล้มเหลวในชีวิตเป็นจุดเริ่มต้นที่แสดงให้เห็นว่า เราเข้าใกล้ความสำเร็จมากขึ้นแล้ว คนที่ไม่เคยล้มเหลวเลย มีเพียงคนที่ไม่เคยทำอะไรเท่านั้น และคนที่ไม่เคยทำอะไร ก็เท่ากับว่า เขายังไม่ได้เริ่มก้าวเพื่อเข้าใกล้กับความสำเร็จเลยแม้แต่น้อย ดังนั้น ตราบเท่าที่ยังมีลมหายใจ จงอย่ากลัวที่จะยอมแพ้ เพราะเราสามารถใช้ทุกลมหายใจของเรา พัฒนาตัวเอง ต่อเติมความฝัน และเติมเต็มมันให้ประสบความสำเร็จได้อย่างแน่นอน

อีลอน มัสก์ เคยถูกถามว่า “คุณเคยคิดที่จะล้มเลิกความฝันหรือไม่?” คำตอบสั้นๆ ของเขาคือ “I will have to be dead or completely incapacitated.” ซึ่งมันสะท้อนให้เห็นว่า เขาไม่เคยยอมแพ้เลยแม้แต่ครั้งเดียว ตราบเท่าที่ยังไม่ตาย หรือยังคงสามารถลุกขึ้นมาได้อีก ไม่ว่าจะต้องล้มสักกี่ครั้ง และนั่นเองที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จได้อย่างยิ่งใหญ่ทุกวันนี้

คมความคิดที่ 2 : อย่ามองหารักแท้แค่กับชีวิตคู่ แต่จงมองหาดูในงานที่ทำ

เราทุกคนล้วนต้องการรักแท้ นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ทุกคนแสวงหาคู่ครองของตัวเองอย่างเข้มข้น เพราะเราเชื่อว่ามันจะทำให้เรามีความสุขอย่างที่ใฝ่ฝัน ไม่ใช่เรื่องผิดที่จะคิดแบบนั้น แต่ในเมื่อเรารู้อยู่แล้วว่าการมีชีวิตคู่อยู่กับคนที่รักมันทำให้เรามีความสุขขนาดไหน จงคิดแบบนั้นกับงานที่คุณทำด้วย!

เพราะ ‘งาน’ คืออีกหนึ่ง ‘คู่ชีวิต’ ที่จะส่งเสริมให้เราไปถึงความสำเร็จได้อย่างที่เราตั้งใจ ซึ่งถ้าต้องอยู่กับงานที่ไม่ได้รักแล้ว จุดจบก็คงไม่ต่างอะไรกับการมีชีวิตคู่อยู่กับคนที่ไม่ได้รักนั่นเอง

“Really like what you do”  อีลอน มัสก์ เคยกล่าวไว้ เพราะเมื่อไหร่ก็ตามที่เราได้ทำงานที่รักที่ชอบ ไม่ว่ามันจะยากแค่ไหน ไม่ว่ามันจะต้องล้มเหลวสักกี่ครั้ง เราก็ยังพร้อมที่จะอยู่กับมันได้เสมอ และเมื่อเราไม่ได้เลิกที่จะอยู่กับมัน การเริ่มต้นใหม่ก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย

คมความคิดที่ 3 : อย่าปล่อยให้เสียงของใคร ดังกว่าเสียงหัวใจของคุณ

คุณเคยไหมที่พอเริ่มคิดและมีใจจะทำอะไรซึ่งใหญ่เกินตัวแล้ว มักจะมีคนบอกว่า “เป็นไปไม่ได้หรอก” และเสียงหนึ่งที่บอกคุณแบบนั้นก็ไม่ใช่เสียงใครที่ไหน แต่เป็นเสียงจากหัวของคุณเองนั่นแหละ มนุษย์เราเป็นสิ่งมีชีวิตที่ประหลาดและซับซ้อนที่สุด ทั้งๆ ที่เป็นคนคิดเองแท้ๆ ว่าอยากทำและจะทำให้ได้ แต่สุดท้ายก็เป็นตัวเองนั่นแหละที่หยุดมันไว้แค่ในความคิด

จงอย่าฟังเสียงในหัวของคุณ เพราะมันเป็นเพียงแค่ระบบรักษาความปลอดภัย ที่ช่วยให้เราไตร่ตรองได้ดียิ่งขึ้นเท่านั้น เสียงค้านในหัวต้องไม่มีอำนาจไปกว่าเสียงหัวใจ เพราะหากคุณกำลังคิดจะทำอะไรที่ยิ่งใหญ่ จงเชื่อเถอะว่า

เสียงคัดค้านทั้งหลายไม่ว่าจะจากคุณเองหรือจากใคร มันคือเครื่องยืนยันการันตีอย่างดีที่สุดว่า สิ่งที่คุณคิดนั้นมันสุดยอด! เหมือนกับที่มัสก์เคยกล่าวถึงเส้นทางความสำเร็จในการสร้าง SpaceX ของเขาไว้ประโยคหนึ่งว่า “Don’t Listen to The Little Man”

คมความคิดที่ 4 : ถอยห่างจากการหลีกเลี่ยง จงกล้าเสี่ยงกับความชอบของตัวเอง

มนุษย์เรามีความชอบมากกว่าหนึ่งอย่างเสมอ และเรามักเลือกทำแต่เฉพาะความชอบที่ตัวเองทำได้ โดยปล่อยให้ความชอบอื่นๆ ถูกทิ้งร้างไว้ในความฝัน ทุกๆ ความชอบของคุณมีโอกาสซ่อนอยู่ เพราะมันหมายถึงคุณรักที่จะทำมัน มีแรงบันดาลใจที่จะพัฒนาตัวเองให้สำเร็จร่วมไปกับมันได้

จงกล้าเสี่ยงกับความชอบของตัวเอง แม้ว่าคุณจะไม่ถนัดและไม่เคยทำมาก่อน เพราะบั้นปลายของการทดลอง อาจมีของขวัญเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่รออยู่ ‘Take a risk’ คือสิ่งที่เขาทำและท้าให้ทุกคนทำมาตลอด โดยเขาได้แสดงให้เห็นแล้วว่าการเสี่ยงกับความชอบของตัวเองให้ผลลัพธ์ที่งดงามเพียงใด

คมความคิดที่ 5 : จงทำสิ่งที่เป็นประโยชน์ให้โดดเด่น ถ้าอยากเป็นผู้ชนะบนเวทีธุรกิจ

หลายคนอาจนิยามธุรกิจว่า คือ การแลกเปลี่ยน, การค้าขาย, การสร้างผลกำไร ฯลฯ แต่หลักคิดอันยิ่งใหญ่ของธุรกิจที่ประสบความสำเร็จ คือ ‘การทำในสิ่งที่เป็นประโยชน์และแก้ปัญหาให้กับผู้คน’

หากคิดอยากจะสร้างธุรกิจให้ประสบความสำเร็จลองมองหาดูว่า ‘อะไรของปัญหาของโลกใบนี้’ และเรา ‘จะแก้ปัญหาให้เขาได้อย่างไร’ ถ้าคิดได้แบบนี้เท่ากับว่า เรากำลังอยู่บนเส้นทางของการสร้างธุรกิจที่มีเป้าหมายเป็นความสำเร็จรออยู่ข้างหน้า เพียงทำสิ่งนั้นด้วยความสร้างสรรค์ให้โดดเด่น แล้วเมื่อโลกเห็น เราจะได้ผลตอบแทนที่คุ้มค่า เช่นเดียวกันกับที่ อีลอน มัสก์ เลือกปฏิบัติตลอดมา — “Do Something Important” ซึ่งทุกธุรกิจของเขาช่วยแก้ปัญหาและเป็นประโยชน์ต่อผู้คน จึงไม่แปลกเลยที่เขาจะประสบความสำเร็จเช่นทุกวันนี้

ความสำเร็จต้องเริ่มจากไม่ยอมแพ้
หาคู่แท้เป็นงานรักที่ใฝ่ฝัน
ต้องกล้าเสี่ยง เลิกฟังเสียงคอยกีดกัน
คิดสร้างสรรค์คุณประโยชน์เพื่อส่วนรวม


และหากคุณชอบใน Content ที่ทาง CEO Blog ได้นำเสนอ ในเร็ว ๆ นี้ ทาง CEO Blog ของเรานั้น กำลังจะมีโปรเจค CEO Premium Content ซึ่งเป็น Content ด้านการค้าปลีกออนไลน์ แบบพรีเมี่ยม ที่หาอ่านไม่ได้บน Blog ปกติของ CEO Blog โดยจะเปิดรับสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมในเร็ว ๆ นี้

หากคุณไม่อยากพลาด Content ระดับ Premium สามารถลงทะเบียนเพื่อรับแจ้งข่าวสารได้ที่นี่ก่อนใครเลยครับ รับรองได้เลยว่ามันเป็น Content ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่คุ้มสุด ๆ อย่างแน่นอน >>> ลงทะเบียนรับข่าวสารที่นี่ก่อนใครceo premium content