เกิดอะไรขึ้น! เมื่อผมหยุดเขียนบทความไปหนึ่งเดือนเต็ม

ipadhorizontalleft

ผมห่างหายไปจากการเขียนบทความหนึ่งเดือนเต็มๆ ราวกับลาพักร้อนไปเที่ยวชาร์จพลังงานให้กับตัวเองอย่างไรอย่างนั้น ที่ผมต้องละจากการเขียนบทความเพราะก่อนหน้านั้นผมมีความคิดริเริ่มที่จะทำโครงการหลายๆอย่างเข้ามาพร้อมกันตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็น

1. เว็บไซต์ภาษาไทยตัวใหม่
2. เว็บไซต์ภาษาอังกฤษตัวใหม่
3. โครงการ Blogger platform
4. Mini e-book แจกฟรีเล่มใหม่สำหรับสมาชิก
5. Official e-book เล่มใหม่
6. และบทความยาวใหม่ๆที่ผมทำเป็นลิสต์ๆเอาไว้

ไอเดียพวกนี้มันประดังเข้ามาแต่ผมไม่มีปัญญาทำ… บอกตรงๆอีกครั้ง ผมไม่มีปัญญาทำทุกอย่างที่ผมคิดและผมสับสนมาก สุดท้ายผมก็ fail คือไม่ได้ทำอะไรเลย อย่างเว็บไซต์ผมก็เสียเงินซื้อโดเมนมาแล้วก็ไม่ได้ลงไปลุยกับมัน บทความยาวทำลิสต์ไว้ก็เขียนไม่ทัน ฯลฯ ณ จุดนั้นเองทำให้ผมฉุกคิดถึงคำว่า Prioritization และ Focus แปลว่า การจัดลำดับความสำคัญและการมีสมาธิอยู่กับงานๆเดียว คนเราจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดคือต้องทำทีละอย่าง ต้องมีสติ และสมาธิจดจ่ออยู่กับมัน การจับงานหลายอย่างต่างหากที่กลับยิ่งทำให้ประสิทธิภาพต่ำและงานเสร็จช้า เมื่อผมมีสติคิดได้ ผมจึงหยุดการเขียนบทความและเริ่มต้น Prioritization

จัดลำดับปรับโฟกัส: ผมทำบล็อกเพื่ออะไร

นี่คือสิ่งที่ผมทำตัวเองเมื่อ 1 เดือนก่อน ผมถามเพื่อทบทวนแนวทางของตัวเองหลังจากที่ช่วงหลังผมเริ่มสับสนระหว่างจะทำเว็บ AdSense ดี หรือจะทำเว็บ Amazon affiliate ดี หรือจะ Click Bank affiliate ฯลฯ การทวนย้อนถามใจตัวเองเป็นการเตือนสติที่ดีมาก ผมทำบล็อกเพื่ออะไร? ในเมื่อ Niche ของผมคือ

1. ความรู้ในแวดวงธุรกิจ
2. ทักษะในการเขียน
3. ความฝันที่เป็นนักเขียน direct publisher

ผมจึงทำบล็อกก็เพื่อแชร์ความคิดของผม แชร์สิ่งที่ผมรู้ ทั้งแบบ Blog และ Book ฉะนั้นลำดับต่อมาผมก็ควรต้อง Focus ที่การสร้างหนังสือ eBook เล่มใหม่สิ!

จริงๆ การทำ Blog monetization สายคุณภาพด้วยวิธี AdSense หรือวิธี Affiliate หากทำเป็น ทำถูกทาง ก็ล้วนรายได้ดีทั้งสิ้นไม่ต่างจากการมี Information product ของตัวเอง แต่ขึ้นชื่อว่าสายคุณภาพแล้ว การทำงานจะใช้เวลาในการสร้างฐานอันยาวนานมาก อาทิ Pat Flynn ที่ทำบล็อกคุณภาพติด Google AdSense ก็ใช้เวลาสร้างบล็อกไม่ต่ำกว่า 3-4 เดือนตั้งแต่ขั้นวางแผนไปจนกว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้ ส่วน Spencer Haw ทำบล็อกคุณภาพติด Amazon affiliate ก็ใช้เวลายาวนานพอๆ และเช่นเดียวกับการสร้าง Information product อาทิ E-Book สักเล่มก็ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 3-4 เดือนเช่นกันกว่าจะเปิดตัวอย่างเป็นทางการได้

เมื่อการทำบล็อกสายคุณภาพรวมไปถึงแนวทางการทำเงินแต่ละวิธีของบล็อกนั้นๆอาศัยเวลาในการพัฒนาที่ยาวนาน ผมจึงไม่สามารถทำพร้อมๆกันได้และต้องเลือกตัวที่เหมาะสมกับผมมากที่สุด และนั่นคือการทำสาย Information product

ผลลัพธ์ของบล็อกหลังจากไม่ป้อนบทความเป็นเวลา 1 เดือน

ช่วงแรกผมมีความกังวลใจมาก ใจหนึ่งยังอยากที่จะเขียนอยู่ตะหงิดๆ นอกจากนั้นยังกังวลว่า Traffic จะตกด้วย และกังวลว่าจะไม่มีอะไรไปอัพเดทใน Facebook page แต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นเช่นนั้น Traffic ของ The CEO Blogger ยังคงยืนพื้นอยู่อย่างมั่นคงและปรับตัวสูงขึ้นแม้จะไม่ได้มีการอัพเดทบทความใหม่ๆ ส่วน Facebook page ก็มีจำนวน Like ใหม่ๆเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ทั้งหมดนี้ผมเชื่อว่าน่าจะเป็นผลจาก บทความคุณภาพ ที่ผมวางรากฐานเอาไว้ให้กับบล็อกตัวเอง เมื่อผมไม่อยู่เป็นเวลานาน บทความมันทำงานด้วยตัวมันเองโดยมี Long tail keyword ในกลุ่มที่เกี่ยวข้องในแนวๆเหล่านี้ อาชีพอิสระ, อาชีพออนไลน์, การฝึกภาษาอังกฤษ ฯลฯ Long tail keyword .oกลุ่มเหล่านี้ล้วนนำพา Traffic เข้ามายังบล็อกของผมทุกวัน

ผลผลิตที่ได้มาจากพลังแห่งการโฟกัส

การวางมือจากการเขียนบทความเพื่อไปพัฒนางานในส่วน Back end ทำให้ผมได้ผลผลิตที่คิดไว้แต่ไม่ได้ทำก็ได้ทำจนสำเร็จถึง 2 อย่างได้แก่ Mini E-Book: Solo-Entrepreneur และ Draft Official E-Book: The Freedom Hacker

a) Mini E-Book: Solo-Entrepreneur เป็นหนังสือ (e-book) แจกฟรีที่จะมีผลสำหรับสมาชิก Newsletter เก่าและผู้ที่จะมาสมัครใหม่ในอนาคต ซึ่งผมอยากทำมานานแล้วเหตุเนื่องจากเล่มเดิม Google Survival Guide เริ่มไม่ค่อยทันสมัย สถานการณ์ในโลกธุรกิจอินเตอร์เน็ตเปลี่ยนแปลงไป หนังสือชุดนี้เสร็จแล้วและมีผลใช้งาน 23 สิงหาคม 2013

b) Draft Official E-Book: The Freedom Hacker เป็นหนังสือ (e-book) อย่างเป็นทางการเล่มที่สามของปี 2013 (สองเล่มแรกที่ผ่านมาคือ The Art of Blog และ Epic Blogger Pat Flynn) เป็นหนังสือที่ผมลงรายละเอียดมากที่สุดของตั้งแต่เคยทำมาและต้องการสร้างแนวคิดและวิธีปฏิบัติในการทำธุรกิจอินเตอร์เน็ตสายคุณภาพอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรมที่สุด เนื้อหาร่างใกล้เสร็จแล้วและคาดว่าฉบับเต็มจะเปิดขายปลายปี 2013

ผมรู้สึกว่าตัดสินใจไม่ผิดที่เลือกที่จะจัดลำดับความสำคัญตามเจตนารมณ์และเป้าหมาย จากนั้นก็ตัดขาดจากบางสิ่งบางอย่างไปเพื่อที่จะโฟกัสกับสิ่งที่ผมต้องทำจริงๆ และภายในเวลา 1 เดือนมันทำให้งานของผมสำเร็จเป็นขั้นๆไปได้ตามแผนที่วางไว้

วันนี้คุณตั้งเป้าหมายให้บล็อกตัวเองหรือยัง

การตั้งเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญมาก หากไม่มีเป้าหมายให้กับบล็อกของคุณ คุณจะขาดเจตนารมณ์และไม่มีแนวทางที่ชัดเจนในการบล็อก และคุณอาจเลิกบล็อกไปภายในเวลา 6 เดือน เป้าหมายนั้นจึงเปรียบเสมือนแผนที่และเข็มทิศที่จะทำให้คุณเดินผ่านป่ารกป่าชัฏออกไปสู่ทุ่งหญ้าอันไพศาล

สำหรับ The CEO Blogger ผมต้องการวางเป้าหมายให้เป็นบล็อกเพื่อ นักธุรกิจอินเตอร์เน็ต โฟกัสที่การให้ความรู้และประโยชน์แก่ผู้อ่านและมีสินค้าและบริการเป็นของบล็อกเอง เจตนารมณ์ของผมในข้อหลังนี้ไม่เคยเปลี่ยนตั้งแต่เมื่อสองปีก่อนที่ผมเริ่มบล็อก ผมไม่ได้เข้ามาบล็อกเพื่อหวังพึ่งพิง Google AdSense เป็นรายได้หลัก ผมรู้ว่ามันอาจเป็นความคิดที่แปลกถ้าผมจะบอกว่า …สมมุติวันหนึ่งผมมีรายได้จาก AdSense เดือนละ 50,000 บาท ผมก็ยังไม่อาจนับว่า AdSense เป็นรายได้หลัก เพราะไม่ว่าจะอย่างไรมันก็เป็น Platform ของผู้อื่นที่เราไม่มีอำนาจบริหาร 100% ผมมีความเชื่อเสมอมาว่ากระแสรายได้ที่มั่นคงที่เชื่อถือได้มากที่สุดจะต้องมาจาก Platform ของตนเองที่เรามีอำนาจบริหาร เต็ม หรือ เกือบเต็ม หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์

ถึงตอนนี้ สำหรับสมาชิกเก่าที่เคยสมัคร Newsletter ไว้ก่อนหน้านี้ทุกคนน่าจะได้รับ Mini E-Book Solo Entrepreneur เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้มาใหม่ที่ต้องการรับ Mini E-Book สามารถสมัคร The CEO Blogger’s Newsletter พร้อมรอรับ Mini E-Book นี้ได้เลยครับ (รอจัดส่งประมาณ 1 ชั่วโมงหลังสมัคร)

Click image subscribe and get Mini E-Book FREE!

*หากไม่ได้รับ newsletter ภายใน 1 ชั่วโมงหรือได้รับแต่เปิด e-book ไม่ได้โปรดแจ้งไปที่ pkridakorn@gmail.com

ipadhorizontalleft