Passion ปะทะ Money ขาย App. ปีละแสนเหรียญจากสินค้าที่ไม่ได้รัก

TMcken

เราทุกคนรู้ดีว่าการทำสิ่งที่รักจะทำให้เราทำได้ดี ฝรั่งจึงมีวลี Follow your passion ทำตามฝัน ทำในสิ่งที่คุณหลงใหล ซึ่งผมเองก็ทำอย่างนั้นและมีความสุขและได้ผลลัพธ์กับการทำสิ่งที่รักอย่างน่าพอใจ แต่ในโลกนี้ก็มีคนอีกมาที่ไม่ได้ทำในสิ่งที่รักแต่ก็ทำได้ดี เขาทำอย่างไร เขาใช้สิ่งใดเป็นแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิตในแต่ละวันกับสิ่งที่ตนเองไม่ชอบไม่เชื่อไม่ศรัทธา?

Trevor McKendrick (เทรเวอร์) ชายหนุ่มผู้มีชีวิตธรรมดาคนหนึ่งไม่ได้รวยแต่ก็ไม่ได้จน วันหนึ่งในเดือน กุมภาพันธ์ ปี 2012 เขามีโอกาสนัดรวมญาติกินอาหารเย็นด้วยกันและได้ฟังเรื่องราวของญาติคนหนึ่งที่มีรายได้ 8,000 – 10,000 เหรียญต่อเดือนจากการขาย Application ผ่าน Apple App. Store

ตัวเงินกลายเป็นแรงขับให้ เทรเวอร์ อยากทำ App ขายบ้างโดยเขาคาดหวังเพียงเดือนละ 600 เหรียญ เขาหวังแค่พอค่าเช่าห้องของเขาเท่านั้น

เขาทำการศึกษาว่า App อะไรขายดีที่สุดใน Apple Store และพบว่าหนึ่งในนั้นคือ App ไบเบิ้ลคริสเตียน ซึ่ง App ที่มีอยู่ไม่ได้ดูสวยงาม เขาจึงตัดสินใจทำ App. ไบเบิ้ลนี่แหละ!

เทรเวอร์ จ้างโปรแกรมเมอร์ชาวสเปนมาสร้าง App. ให้เขาและสามารถขายได้แม้ไม่ถึงกับดีมากแต่ก็น่าพอใจ ต่อมาเขาสั่งให้สร้าง App. ไบเบิ้ลในเวอร์ Audio หรือ หนังสือเสียง ปรากฏว่าคราวนี้ขายดีระเบิด App. Audio Bilble สร้างรายได้ 5,000-6,000 เหรียญในช่วงเดือนแรกๆ ที่ออกขาย และในระยะเวลาหนึ่งปีทำยอดขายรวม 73,034 เหรียญ และตามมาด้วยยอดขายรวม 100,134 เหรียญในปีที่สอง

เทรเวอร์ ให้สัมภาษณ์กับสื่อว่า เขาตกใจกับรายได้และยอดขายได้เปลี่ยนชีวิตเขา หลังจากผลิต App. เสร็จและเปิดขายออกไป App. สร้างรายได้ Passive income โดยที่ตัวเขาแทบไม่ต้องเขาไปดูแลมาก เขาใช้ชีวิตในแต่ละวันโดยไม่ต้องกังวลเรื่องเงินอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน แต่สิ่งหนึ่งที่เขารู้สึกแปลกๆ คือเรื่องของ จริยธรรม

เขายอมรับว่า เขาเป็นคนไม่มีศาสนา แต่เขาทำ App ไบเบิ้ลขายสร้างรายได้จากสิ่งที่เขาไม่ได้ศรัทธา บางครั้งผู้คนคิดว่าว่าเขาเป็นบาทหลวงและขอให้เขาช่วยสวดมนต์ให้พวกเขา เทรเวอร์บอกว่าเขารู้สึกผิดมากเวลาที่เจอเหตุการณ์แบบนั้น

เทรเวอร์ อุปมาอุปมัยกับการขายหนังสือ Harry Potter หรือ Lord of the Ring แล้วคนเชื่อว่า เวทมนต์มีจริง, แหวนแห่งพิภพมีจริง ทั้งๆ ที่คุณรู้อยู่แก่ใจว่ามันเป็นเพียงเรื่องแต่ง มันเป็นความรู้สึกไม่สบายใจ

แต่เมื่อสื่อถามว่า ความรู้สึกนี้จะทำให้เขาเลิกขายไบเบิ้ลหรือไม่… เขาตอบทันทีว่า “ไม่ เพราะรายได้ดีเกินกว่าจะหยุดขายและไม่ได้ทำผิดกฎหมาย

เทรเวอร์ บอกว่าแม้เขาขายสินค้าที่ตัวเองไม่ได้รักและศรัทธา แต่รายได้นี้จะถูกนำไปใช้พัฒนาสิ่งที่เขารักและสร้างคุณค่าต่อๆไป ปัจจุบันเขากำลังพัฒนาธุรกิจที่ชื่อว่า Back Office ซึ่งนี่จะเป็นธุรกิจและผลิตภัณฑ์ที่เขามีความรักและศรัทธา 100%

สรุป

หลายต่อหลายครั้งที่เราทำในสิ่งที่เราไม่ได้รักเพื่อให้มีกระแสรายได้เข้ามาหล่อเลี้ยงและนำพาเราไปสู่เป้าหมายที่เราต้องการจริงๆ คนบางคนอาจขายสินค้าที่ตนไม่ได้มี Passion แต่เขามีเป้าหมายที่ไกลกว่านั้นคือเพื่อเอาเงินไปช่วยคนด้อยโอกาส หรือคนบางคนอาจทำธุรกิจที่ตนเองไม่มี Believe ในสินค้า แต่เป้าหมายระยะยาวเพื่อเอาเงินไปสร้างนวัตกรรมเปลี่ยนโลกที่เขา Believe มากกว่า

สิ่งที่คุณทำวันนี้อาจไม่ใช่สิ่งที่รักที่สุด แต่มันจะพาคุณไปสู่สิ่งที่คุณรักจริงๆอันเป็นเส้นชัยสุดท้าย สิ่งสำคัญคือต้องมีเป้าหมาย เพราะมันจะทำให้คุณทำทุกวันโดยรู้ตัวว่าทำไปเพื่ออะไร