ผมรู้จักกับน้องสาวคนนี้ที่คอร์สสัมมนา Amazing Life เมื่อกลางปี 2014 โดยวันนั้นผมไปเป็น Guest Speaker ที่งาน พอช่วงท้ายของงานน้องคนนี้เดินมาปรึกษาเรื่องการทำบล็อกภาษาไทยว่าอยากแบ่งปันประสบการณ์การทำ eBook ขายบน Amazon Kindle
ผมถามประวัติพอสังเขปและต้องตกใจเพราะเธอเป็นบัณฑิตใหม่ เพิ่งเรียนจบอายุน้อยมากๆ แต่มีรายได้จากการขาย eBook บน Amazon มากกว่าเงินเดือนขั้นต่ำปริญญาตรี 3-5 เท่าตัว Passive income! เธอชื่อ น้องแยม ภัสราภรณ์
1. แนะนำตัว, เว็บไซต์, แฟนเพจ –ปัจจุบันมีรายได้จากอะไร, และเล่าวิถีชีวิตประจำวัน (Life style) ในภาพรวมว่าเป็นอย่างไร?
สวัสดีค่ะ ชื่อแยม อายุ 24 ปี เรียนจบคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยค่ะ ปัจจุบันแยมมีรายได้หลักจากการทำ Kindle Ebook ขายในตลาด Amazon ค่ะ และมีเว็บไซต์ชื่อ www.gycpublishing.com กับ Fanpage ชื่อ www.facebook.com/gycpublishing
แยมเป็นคนชอบชีวิตอิสระ ปกติจะชอบไปนั่งทำงานที่ห้องสมุดหรือร้านกาแฟค่ะ เพราะมันสงบและเราสามารถคิดงานและคิดไอเดียในการทำหนังสือต่างๆออกมาได้เยอะค่ะ งานของแยมทำที่ไหนก็ได้ขอเพียงแค่มีคอมพิวเตอร์กับอินเตอร์เน็ตค่ะ เมื่อมีเวลาว่างจากงานก็จะไปเที่ยวกับเพื่อนตามประสาวัยรุ่นทั่วไปค่ะ
แยมคิดว่าถ้าเราทำงานหาเงินอย่างเดียวจนเครียดเกินไป ไม่ออกไปเที่ยวไปพักผ่อน หรือใช้ชีวิตให้มีความสุข มันจะทำให้สุขภาพเราแย่ลงและส่งผลเสียในด้านอื่นๆตามมาค่ะ ถ้าแบ่งเวลาดีๆก็จะลงตัวทั้งเรื่องงานและเรื่องอื่นๆที่ทำให้ชีวิตมีความสุขค่ะ
2. ตั้งแต่เรียนจบมาก็ทำ Amazon Kindle เลย หรือว่าเคยทำงานประจำมาก่อน เคยทำงานประจำในตำแหน่ง/อาชีพอะไร?
หลังจากเรียนจบก็ทำงานประจำที่บริษัท Zalora ค่ะ ตำแหน่ง Search Engine Marketing (SEM) หรือที่รู้จักโดยทั่วกันก็คือ Google Adwords นั่นเองค่ะ มันคือการทำโฆษณาให้ติดอันดับต้นๆของหน้าเว็บ Google ค่ะ
ช่วงแรกๆ สนุกเพราะงานมันท้าทายและเป็นอะไรที่เราไม่เคยทำมาก่อน ถามว่าชอบงานที่ทำมั้ย ชอบค่ะ แต่เนื่องจากเราทำไปซักพักแล้วเรารู้ตัวเร็วว่าเราไม่เหมาะกับงานประจำ เราไม่ชอบชีวิตที่ต้องเข้าเช้า เลิกเย็น กลับบ้าน นอน และตื่นเช้ามาทำงานต่อ เมื่อทำงานได้ประมาณ 3 เดือนเลยตัดสินใจลาออกค่ะ
จากนั้นก็ลองมานั่งคิดกับตัวเองว่า เราจะทำอะไรต่อดี ก็เลยนึกขึ้นได้ว่าเคยทำงานวิจัยเกี่ยวกับตลาด Ebay ตอนอยู่มหาวิทยาลัยปีสุดท้าย เลยทดลองขายสินค้าใน Ebay ดู ทำอยู่ประมาณ 3-6 เดือนก็ไม่สำเร็จ พอทำ Ebay ไปซักพักเราก็รู้สึกว่ามันไม่พัฒนาขึ้น ยอดขายไม่กระเตื้องเลย และเป็นช่วงเดียวกันที่ตลาด Amazon เริ่มเป็นที่รู้จัก เราก็เลยไปเข้าคอร์สสัมมนาการขายสินค้าในตลาด Amazon และก็ขายอยู่ซักพักใหญ่ๆ แต่ในที่สุดก็โดนปิดบัญชี เลยเปลี่ยนมาทำนำเข้าสินค้าจากจีนมาขายในไทยแทน
ทำอยู่ประมาณ 2 ปี ก็รู้สึกว่าเราเบื่อ ไม่มีความสุข และไม่น่าจะเหมาะกับงานแนวนี้ เลยเลิกทำนำเข้าค่ะ หลังจากนั้นก็ได้รู้จักกับการขาย Kindle Ebook ในตลาด Amazon และก็ทำมาเรื่อยๆค่ะ ชีวิตมีความสุขดีค่ะ
3. อายุยังน้อย เพิ่งจบ ทำไมถึงรู้สึกว่าไม่อยากทำงานประจำเสียแล้ว?
เวลาทำงานประจำแล้วเรารู้สึกว่าไม่ชอบและไม่ใช่เราค่ะ เราไม่ชอบตื่นเช้าไปเผชิญรถติด เลิกงานเย็นก็เจอแต่คนเบียดกันบน BTS หรือบางครั้งก็เครียดกับงานและกดดันตัวเองจนเกินไป แทนที่จะได้ใช้ชีวิตอิสระในแบบฉบับของตัวเอง ได้ทำสิ่งที่เราชอบและมีความสุขจริงๆ แต่เรากลับใช้ชีวิตในรูปแบบที่คนอื่นอยากให้เราทำหรืออยากให้เราเป็น เรารู้ตัวเร็ว ก็เลยมองว่าชีวิตงานประจำไม่ตอบโจทย์เรา ด้วยความที่ตัวเองอายุยังน้อยและอยากรู้อยากลอง จึงตัดสินใจที่จะลองเสี่ยงและออกมาทำธุรกิจของตัวเองค่ะ
4. จับพลัดจับพลูมาทำ Amazon Kindle ได้อย่างไร? เกิดความรู้สึกอย่างไรกับ Amazon Kindle ในวินาทีแรกที่รู้จักมัน?
รู้จักกับ Amazon Kindle จากเพื่อนๆที่เคยขายสินค้าใน Amazon ด้วยกันค่ะ เค้าก็แนะนำต่อๆกันมา ช่วงที่เรารู้จักเป็นช่วงที่เราเริ่มเบื่อกับการทำนำเข้าพอดีค่ะ เลยมีโอกาสได้เรียนรู้และทดลองทำ ช่วงแรกๆเราลองทำประมาณ 2 เดือน จากนั้นก็หยุดทำไป 5 เดือนค่ะเพราะยุ่งๆกับเรื่องนำเข้าสินค้านิดหน่อย
พอเรากลับมาดูยอดขายจาก Amazon Kindle ก็พบว่าหนังสือที่เราทำและลงขายในช่วง 2 เดือนนั้น ผ่านไป 5 เดือน มันก็ยังทำรายได้ให้เราเรื่อยๆทุกเดือนค่ะ เป็นอะไรที่งง ประหลาดใจ ปนดีใจและตื่นเต้นค่ะ เพราะเราหยุดทำไปแต่มันก็ยังมีรายได้ให้เรามาเรื่อยๆ เลยเริ่มมาจริงจังกับการทำ Kindle Ebook มากขึ้นค่ะ
5. เล่าประสบการณ์การทำ Amazon Kindle ตอนตัดสินใจเริ่มต้นทำ คิดว่าจะทำเรื่องอะไร?
ตอนแรกสุดเรายังไม่มีไอเดียในการทำหนังสือ เราก็ศึกษาจากคนรู้จักที่ทำ Amazon Kindle และดูวีดีโอของฝรั่งเอาค่ะ ผลงานแรกๆที่ทำคือเราจับเอานวนิยายที่หมดลิขสิทธิ์แล้วมาทำใหม่ เพราะมันมีเนื้อหาให้ดาวน์โหลดฟรีค่ะ และเราก็แค่มาเปลี่ยนหน้าปกและปรับแต่งเนื้อหานิดหน่อย อย่างเช่นเรื่อง Peter Pan และ Alice in Wonderland เป็นต้นค่ะ หลายๆคนน่าจะรู้จักกันดี
กลุ่มหนังสือพวกนี้คือกลุ่มแรกที่เริ่มต้นทำค่ะเพราะมันไม่ยากเกินไปและไม่ต้องลงทุนเงินซักบาทค่ะ แต่พอเวลาผ่านไปก็อยากลองทำหนังสือแนวอื่น กลุ่มอื่นดูบ้างค่ะ ก็เลยศึกษาเพิ่มเติมในเรื่องของหมวดหนังสือ และดูว่าคนเค้านิยมอ่านอะไรกัน เราก็ทำหนังสือพวกนั้นออกมา ซึ่งเป็นส่วนที่ต้องใช้เงินลงทุนค่ะ
6. Amazon Kindle เป็นภาษาอังกฤษ มีวิธีการเขียนอีบุ๊คอย่างไร, การออกแบบปก, การ Set format ให้เข้ากับแพลทฟอร์ม Kindle, การตั้งราคา?
ถ้าใครพอได้ภาษาอังกฤษอยู่แล้ว แนะนำลองเขียนเรื่องที่ตัวเองชอบ ถนัด หรือมีความรู้ในด้านนั้นๆค่ะ เพราะมันจะเป็นงานที่เราทำเสร็จไวและลงเผยแพร่ในตลาดได้ไวค่ะ แต่ถ้าไม่เก่งภาษาอังกฤษเลย ให้ลองใช้ Bing Translator หรือ Google Translator ค่ะ มันสามารถแปลได้ดีระดับหนึ่งเลยค่ะ
วิธีการเขียนนั้นก็ตามแบบฉบับหนังสือทั่วไปค่ะ คือต้องมีคำนำ เนื้อเรื่อง และสรุปค่ะ สำหรับคนที่ไม่ชอบเขียนเอง ก็สามารถจ้างฝรั่งเขียนได้ค่ะ แหล่งการจ้างเช่น iwriter, epicwrite, odesk, elance เราต้องติดต่อและต่อรองราคากับฝรั่งที่มารับงานเขียนให้เราค่ะ
ราคาจ้างเขียนก็จะอยู่ที่ความพึงพอใจและงบประมาณต่อเล่มของเรา จะมีตั้งแต่ $20 ต่อเล่มไปจนถึงหลักร้อยหลักพันเหรียญต่อเล่มก็มี ขึ้นอยู่กับนักเขียน คุณภาพงาน และจำนวนคำที่เราต้องการให้เค้าเขียนค่ะ ส่วนเรื่องการออกแบบหน้าปก และการจัดหน้าหนังสือในรูปแบบ Kindle เราสามารถจ้างฝรั่งทำได้ค่ะ ซึ่งถ้าให้แนะนำก็จะเป็น Fiverr ที่ใช้ประจำค่ะ มีบริการทุกอย่างเท่าที่เรานึกออกเลยค่ะ
ในเรื่องของการตั้งราคาหนังสือนั้น เราสามารถตั้งที่ราคาเท่าไหร่ก็ได้ค่ะ ขั้นต่ำคือ $0.99 ขึ้นไปค่ะ ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพหนังสือ จำนวนหน้า และหมวดหนังสือที่เราทำด้วยค่ะ ถ้าเข้าไปดูราคาหนังสือใน Amazon จะเห็นว่ามีหลากหลายราคาค่ะ แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่เกิน $20 ต่อเล่มค่ะ
7 สื่อสารกับ Ghost writer อย่างไร?
ก่อนที่เราจะจ้าง Ghost Writer เขียนงานให้เรา เราต้องทำการหาข้อมูลและวางแผนก่อนค่ะว่าหัวข้ออะไรที่คนต้องการอ่าน เป้าหมายของเราคือใคร ปัญหาอะไรที่เค้าต้องการทางแก้ หรือนิยายแนวไหนที่เราชอบและคิดว่ามันน่าสนใจและมีคนสนใจเหมือนเรา
จากนั้นเราก็ต้องกำหนดชื่อหนังสือ และกำหนดว่าหนังสือของเรามีหัวข้อหลักและหัวข้อรองอะไรบ้าง และสื่อสารกับ Ghost Writer ว่าเราต้องการให้เขียนหัวข้อตามที่เราระบุ เขียนจำนวนกี่คำ ให้เวลาประมาณ 1-2 อาทิตย์ ตกลงกันเรื่องราคา ถ้าเรามีความชัดเจนตั้งแต่ต้นงานที่ได้ก็จะออกมาเป็นที่น่าพึงพอใจค่ะ
8. ตอนเริ่มทำช่วงแรก ผลลัพธ์เป็นอย่างไร? ใช้เวลานานแค่ไหนกว่าจะเข้าที่เข้าทาง และปรับแผนการทำงานอย่างไรจึงเข้าที่เข้าทาง?
ต้องบอกก่อนว่า การทำ Kindle Ebook ไม่ง่ายค่ะ ไม่ใช่ว่าทำเสร็จแล้วขายได้ทันที แต่ก็ไม่ได้ยากเกินความสามารถของเรา ทุกอย่างมันต้องใช้เวลาค่ะ ช่วง 1-3 เดือนแรก จะเป็นช่วงวัดใจ เพราะจะทำต่อหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลานี้ค่ะ
เนื่องจากเราต้องศึกษาเรียนรู้ทุกอย่างเท่าที่จะทำได้เพื่อให้เราพัฒนาได้เร็ว แยมเริ่มทำ Amazon Kindle แบบจริงจังอีกครั้งเมื่อตอนเดือนเมษายน 2557 ค่ะ และเข้าที่จริงๆตอนเดือนกรกฎาคม 2557 ค่ะ ใช้เวลาประมาณ 3 เดือนถึงจะเริ่มเห็นผลว่าสิ่งที่เราพยายามและตั้งใจทำนั้น สามารถสร้างรายได้ให้เราจริงๆ
ดูจากจำนวนหนังสือและยอดขายที่ขายได้ในแต่ละวันมันมาจากการที่เราทำหนังสือสะสมไว้และเล่มเก่าๆก็ยังสร้างรายได้ให้เราจนถึงปัจจุบัน แต่เราก็ยังต้องพัฒนาหนังสือของเราต่อไป แยมจะเน้นหนังสือที่มีคุณภาพ เพราะอย่างไรก็ยังเชื่อว่าเนื้อหาเป็นส่วนสำคัญ คนจะอ่านต่อและแนะนำต่อหรือไม่ ก็ขึ้นอยู่กับตรงนี้เป็นหลักด้วยค่ะ
9. กำหนดแนวทางที่จะเขียน Amazon Kindle ต่อไปอย่างไร?
หนังสือของเราที่ติดตลาดแล้ว เราก็จะต่อยอดหนังสือโดยการทำเป็นรูปแบบอื่นๆที่ไม่ใช่แค่ Kindle eBook ค่ะ เช่นต่อยอดเป็นหนังสือรูปเล่ม (Paperback), หนังสือเสียง (Audible Book), แผ่น CD, แผ่น DVD เป็นต้นค่ะ และจะสร้างแบรนด์หนังสือของเราให้ชัดเจนมากขึ้น ให้ผู้อ่านคิดว่า ถ้าเป็นหัวข้อนี้ เค้าต้องนึกถึงนามปากกาเราและหนังสือของเราเป็นอันดับต้นๆค่ะ
10.ล่าสุดทำ Blog ภาษาไทย ช่วยเล่าเกี่ยวกับที่มาในการทำ Blog ในครั้งนี้?
Blog ของแยมจะเป็น Blog ที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการทำหนังสือ Amazon Kindle ค่ะ แยมตั้งใจทำ Blog เพราะแยมมีความรู้เรื่องนี้ มีประสบการณ์ระดับหนึ่ง และเห็นว่าเป็นเรื่องใหม่ที่คนไทยยังไม่ค่อยรู้จัก เลยคิดว่ามันน่าจะเป็นประโยชน์กับใครอีกหลายๆคน
ที่สำคัญคืออยากเป็นแรงบันดาลใจให้คนที่มีผลงานของตัวเองแต่ไม่มีช่องทางการขาย การขายหนังสือใน Amazon Kindle ก็เป็นช่องทางทางทำรายได้อีกช่องทางหนึ่งสำหรับคุณค่ะ ยังไงก็ติดตาม Blog ได้ที่ www.gycpublishing.com นะคะ จะมีข้อมูลดีๆมาแชร์เรื่อยๆค่ะ
11. ฝากข้อคิดดีๆ สำหรับคนที่อยากทำ Amazon Kindle
สำหรับคนที่สนใจอยากทำ Amazon Kindle คุณต้องอดทนและให้เวลากับมันค่ะ ถ้าตั้งใจที่จะทำเป็นรายได้หลักของเรา เราต้องจริงจังและต้องทุ่มเวลาให้เต็มร้อยค่ะ ช่วงแรกที่เริ่มทำคือช่วงที่เหนื่อยที่สุดและอาจถึงขั้นท้อได้ เพราะมันคือช่วงสร้าง แต่เมื่อผ่านเวลาช่วงนี้ไปได้คุณจะพบว่ามันคุ้มค่ามากกับสิ่งที่คุณได้กลับคืนมาทั้งในเรื่องของรายได้ ประสบการณ์ และการค้นพบสิ่งใหม่ๆ
[hr]
สมัครรับข่าวสาร บทความ และประชาสัมพันธ์ สินค้าใหม่ทางอีเมล์ได้ที่นี่ครับ โดยสามารถยกเลิกรับอีเมล์ได้ตลอดเวลาที่ต้องการ
[convertpress id=”1876″ replacetheme=”false”]