ตลาดเช่ารถจักรยานในจีนดุเดือดขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ Didi Chuxing เจ้าตลาดบริการแอปเรียกรถแท็กซี่ในจีน สตาร์ทอัพที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ได้เคยลงทุนกับ Ofo ผู้บริการให้เช่าจักรยานที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ของจีน โดยสามารถใช้แอปของ Didi เช่าจักรยานกับ Ofo ได้เลย และล่าสุด Didi ขยับเดินหมากอีกครั้ง คราวนี้เข้าซื้อกิจการของ Bluegogo ผู้ให้บริการเช่าจักรยานอันดับ 6 ของจีน ที่ประกาศปิดกิจการไปเมื่อปีก่อน และอยู่ระหว่างรอขายกิจการ
โดยการเข้าซื้อกิจการของ Bluegogo ครั้งนี้ จะทำให้ Didi เริ่มธุรกิจเช่าจักรยานของตนเองได้เลยทันที งานนี้ทั้ง Mobike และ Ofo ต้องพบศึกหนักของจริงอีกครั้ง แม้ทั้งสองค่ายรวมกันจะกวาดส่วนแบ่งไปแล้วกว่า 95% ก็ตาม แต่คู่แข่งคนใหม่นี้คือ Didi ที่มีฐานผู้ใช้กว่า 200 ล้านคน ที่นั่งแท็กซี่ของ Didi, Kuaidi และ Uber China และต้องการหาจักรยานในการเดินทางที่ต่อเนื่อง ซึ่งหาก Didi เพิ่มเมนูเช่าจักรยาน Bluegogo ลงไป จะทำให้พฤติกรรมของผู้ใช้เปลี่ยนไปทันที เป็นการชิงส่วนแบ่งการตลาดไปต่อหน้าต่อตา
อย่างไรก็ตาม การเข้าซื้อกิจการของ Didi ก็จะต้องเข้ามาแก้ปัญหาหนี้สิน และเงินค้างจ่ายพนักงานของ Bluegogo ด้วย จึงจะดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เพราะก่อนที่จะปิดตัวไปนั้น Bluegogo ค้างจ่ายเงินเดือนพนักงานเป็นจำนวนมาก และยังมีเงินที่ผู้ใช้จ่ายเป็นค่ามัดจำ ค้างไว้อยู่ในระบบอีกมหาศาลที่ Bluegogo ยังไม่ได้จ่ายคืนแม้แต่หยวนเดียว
ซึ่งหลังการควบรวม เป็นที่แน่นอนว่า Didi จะไม่จ่ายคืนเป็นเงินสด แต่จะจ่ายให้ในรูปแบบของคูปองส่วนลดแทน และทำการเซ็ตศูนย์เริ่มใหม่ทั้งระบบ
ส่วนปัญหาเงินค้างจ่ายกับซัพพลายเออร์ของ Bluegogo ทางDidi จะให้ Bluegogo ไปแก้ปัญหาและจ่ายเอาเอง เนื่องจาก Didi จะจ่ายเงินซื้อกิจการของ Bluegogo ทั้งหมด แต่จะไม่รับผิดชอบมูลหนี้ทางการค้าให้ ทาง Bluegogo ต้องนำเงินที่ได้จากการขายกิจการไปชำระหนี้ด้วยตนเอง
แม้ Bluegogo จะล้มเหลวจากการบริหารกระแสเงินสด แต่ตัวธุรกิจก็ยังคงมีมูลค่าอยู่ ตามหัวเมืองใหญ่ ๆ ของจีนต่างก้มีจักรยานให้เช่าจำนวนมาก เนื่องจากการแข่งขันของผู้ให้เช่าจักรยาน รัฐบาลจีนจึงต้องออกกฎหมายควบคุมจำนวนจักรยาน ห้ามไม่ให้บริษัที่ไม่ได้รับใบอนุญาตนำจักรยานมาให้เช่าในเขตเมืองนั้น ๆ ซึ่ง Bluegogo นั้นมีใบอนุญาตในทุกเมืองใหญ่ของจีน ยกเว้นเซี่ยงไฮ้เพียงเมืองเดียว
แม้ Didi เคยลงทุนใน Ofo มาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ครอบครอง 100% ต่างจากครั้งนี้ที่จะเข้าซื้อกิจการ Bluegogo ซึ่งถ้าหากดีลนี้ดำเนินไปจนสำเร็จ Didi จะมีธุรกิจจักรยานให้เช่าของตนเอง และทำให้การเดินทางของผู้ใช้ Didi สะดวกยิ่งขึ้น และเมื่อร่วมส่วนแบ่งของ Ofo กับ Bluegogo เข้าด้วยกัน บัลลังก์ของ Mobike ย่อมต้องสั่นคลอนแน่นอน
ส่วนอีกทางหนึ่ง Mobike ก็รุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้าให้เช่า เพื่อมาต่อสู้กับ Didi โดยจะมีสถานีชาร์จไฟของตนเอง ซึ่งเป็นจุดรับ-ส่งรถ แทนการใช้คนขับแท็กซี่ที่ต้องขับวนไปรอบเมือง แต่ Mobike จะให้ผู้ใช้สามารถขับไปได้เอง และส่งมอบรถในสถานีถัดไป ซึ่งอาจจะช่วยแก้ปัญหา การหาที่จอดรถไม่ได้ในเมืองที่การจราจรคับคั่ง ผู้ใช้สามารถจอดรถในสถานีแล้วเดินไปขึ้นรถไฟ หรือปั่นจักรยานต่อไปยังจุดหมายปลายทางได้
Source:
http://technode.com/2018/01/08/details-released-didi-bluegogo-tie/