Bill Gates เตือน 4 ธุรกิจ : โรงแรม, ร้านอาหาร, ท่องเที่ยว, จัดอีเวนต์ ‘เจ๊งยาว’ หลัง โควิด-19 พร้อมชี้วิธีแก้ไขด่วน

รูปภาพ Bill Gates เตือน 4 ธุรกิจเจ๊งยาวหลังโควดิ-19

ประเด็นสำคัญ:

  • บิล เกตส์ เผยว่า ไลฟ์สไตล์บางอย่างของผู้บริโภคจะไม่กลับมาเป็นเหมือนเดิมเหมือนแต่ก่อนเกิดไวรัส โควิด-19 ระบาด และจะส่งผลกระทบต่อบางธุรกิจไปอีกยาวนานอย่างไม่มีกำหนด
  • 4 กลุ่มธุรกิจที่จะได้รับผลกระทบไปอีกอย่างนานอย่างไม่กำหนด ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหาร ท่องเที่ยว และ จัดอีเวนต์
  • วิธีแก้ไขอย่างยั่งยืน คือ ธุรกิจเหล่านี้จะต้องปรับตัวด้วยการทำ Digital transformation เต็มรูปแบบ

สืบเนื่องจากสถานการณ์ ไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 ระบาดไปทั่วโลกตั้งแต่เมื่อเดือน ธันวาคม คศ 2019 ที่ผ่านมา บัดนี้ ณ วันนี่ 17 เมษายน 2020 มียอดผู้ติดเชื่อไวรัสทั่วโลก จำนวน 2.18 ล้านคน โดยสหรัฐอเมริกา มีผู้ติดเชื้อจำนวน 678,000 คน เสียชีวิตแล้ว 34,000 คนเศษ ส่งผลให้เป็นประเทศที่มีการระบาดอันดับ 1 ของโลก (ที่มา worldometers.info)

และเมื่อ เดือน เมษายน 2020 ที่ผ่านมา บิล เกตส์ (Bill Gates) ผู้ร่วมก่อตั้ง ไมโครซอฟต์ และเศรษฐีนักการกุศล หนึ่งในผู้ที่มีการเคลื่อนไหวกระตุ้นเตือนชาวโลกเรื่องปัญหาไวรัสมาโดยตลอด ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ This is Working ดำเนินรายการโดย Daniel Roth ผู้เป็นหัวหน้าที่สื่อของ LinkedIn ว่า แม้จบวิกฤต โควิด-19 ระบาดไปแล้ว แต่บางอุตสาหกรรมก็จะไม่สามารถฟื้นกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้อีกต่อไป — ‘จนกว่าจะมีวัคซีนรักษาโรค โควิด-19




ไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคหลัง โควิด-19 เป็นอย่างไร

“It won’t be where you’re doing large public gatherings or even filling up a restaurant. I do think that things like running factories, doing construction, going back to school, those things can be done. […] But when it comes to other industries, including hospitality, sports events, and even real estate, Gates believes it will take much longer to recover” —- บิล เกตส์ กล่าว

แปลความหมายโดยสังเขป :

ธุรกิจ โรงงาน, ก่อสร้าง, และโรงเรียน อาจจะกลับมาเป็นปกติในระดับหนึ่ง แต่ธุรกิจในกลุ่ม บริการท่องเที่ยว, โรงแรม, และร้านอาหาร (ภาษาอังกฤษเรียกโดยรวมว่า Hospitality industry) รวมไปถึง กิจกรรมงานอีเวนต์ อาทิ สัมมนา และ กีฬา อาจซบเซาอีกยาวนาน

บิล เกตส์ พยากรณ์ว่าแม้สถานการณ์ โควิด-19 จะจบลง แต่ประชาชนจะมีบทเรียน และมีความระแวงใจลึก ๆ และจะคิดมากขึ้นหากจะกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิม เช่น การไปงานอีเวนต์ การเดินทางโดยเครื่องบิน และรวมไปถึงการก่อหนี้ระยะยาว อาทิ อสังหาริมทรัพย์

4 กลุ่มธุรกิจ เสี่ยงทรุดยาวไม่มีกำหนด มีอะไรบ้าง

ตามที่ บิล เกตส์ ได้ให้สัมภาษณ์ โดยจะสรุปอีกครั้ง ได้แก่

  • ธุรกิจท่องเที่ยว
  • โรงแรม
  • ร้านอาหาร
  • ธุรกิจอีเวนต์ อาทิ สัมมนา กีฬา และการแสดงโชว์สด ต่าง ๆ

ธุรกิจเหล่านี้มีความเสี่ยงซบเซายาวนานไปจนกว่า วัคซีนรักษาโรคโควิด-19 จะถูกคิดค้นสำเร็จ ซึ่ง เกตส์ พยากรณ์ว่า วัคซีนน่าจะใช้เวลาในการวิจัยและคิดค้นสำเร็จไม่ต่ำกว่า 18 เดือนหลังจากนี้ และระหว่างนี้ ผู้ประกอบการ ต้องเร่งปรับตัวโดยการทำ Digital transformation

ผู้ประกอบการ ต้องปรับตัวอย่างไร

บิล เกตส์ ใช้คำว่า “Push things digitally” — โดยทีมงาน CEO Channels ขอขยายความว่าเป็นการทำ Digital transformation ซึ่งคำนี้ไม่ได้หมายถึงการ ทำการตลาดออนไลน์ ขายของทาง Facebook หรือ ยิงโฆษณาออนไลน์ เท่านั้น

Digital transformation คือ การเปลี่ยนโมเดลธุรกิจและโครงสร้างการหาเงินมาเป็น ออนไลน์ ทั้งหมด อาทิ Netflix ที่เริ่มจากการให้เช่าแผ่นภาพยนต์ส่งทางไปรษณีย์ และภายหลังเปลี่ยนมาเป็น ออนไลน์สตรีมมิ่ง หรือจ่ายเงินเช่าชมภาพยนต์เป็นรายเดือนโดยผ่านทางออนไลน์ 100%

อ่านประวัติการพลิกธุรกิจของ Netflix ที่นี่ 

และการทำ Digital transformation สำหรับ 4 กลุ่มธุรกิจที่มีความเสี่ยงดังกล่าว ตามคำเสนอแนะของ บิล เกตส์ ได้แก่

ธุรกิจท่องเที่ยว และ โรงแรม (ขอมัดรวมกัน) : เกตส์ ให้คีย์เวิร์ด 2 คำได้แก่ Content marketing และ Virtual กล่าวคือ เมื่อผู้บริโภคไม่ไปยังสถานที่ของผู้ประกอบการได้ ผู้ประกอบการก็จะต้องเอา สถานที่เข้าไปหาผู้บริโภค ในรูปแบบของ Virtual tourism และทำการตลาดด้วย Content marketing ผ่านสื่อออนไลน์ อาทิ YouTube ซึ่งกรณีนี้จะยังมีโอกาสมีรายได้จากค่าโฆษณาอีกด้วย โดย เขายกตัวอย่างเว็บไซต์ Greece From Home ของประเทศกรีซ ซึ่งมีการนำกลยุทธ์ทั้ง 2 มาประกอบกันเป็นธุรกิจ ‘ท่องเที่ยวออนไลน์’ แบบ Virtual tour

ธุรกิจร้านอาหาร : อุตสาหกรรมนี้มีปัญหาในการปรับตัวน้อยกว่าเพื่อน เพราะธุรกิจอาหารได้นำร่องปรับตัวไปก่อนที่จะเกิดไวรัสระบาดเสียอีก นั่นคือการปรับไปสู่โมเดล คลาวด์คิชเชน (Cloud kitchen) หรือ การมีแต่ครัวเท่านั้น โดยรับและส่งออเดอร์ผ่านเครือข่าย ฟู้ดดิลิเวอรี่แอปพลิเคชั่น อย่าง Uber Eats, Grab Food, Lineman ซึ่งล้วนเติบโตมากในสหรัฐฯ และประเทศไทยมาตั้งแต่ต้นปี 2019

ฟู้ดดิลิเวอร์รี่ไทยโต 3 เท่าช่วงโควิด

ธุรกิจอีเวนต์ : สหรัฐฯ เริ่มมีการปรับตัวของธุรกิจอีเวนต์ในช่วง ไวรัสโควิด-19 ระบาดมาบ้างแล้วกับงานสัมมนาชื่อดัง อาทิ South by Southwest (SXSW) และ Y Combinator ที่ต้องปรับไปเป็นการจัดอีเวนต์แบบออนไลน์

บิล เกตส์ พยากรณ์ว่า ธุรกิจอีเวนต์หลังจากนี้จะปรับตัวเป็นออนไลน์มากขึ้น และอาจถึงขั้นมีอาชีพใหม่ตามมา นั่นคือ นักออกแบบอีเวนต์ออนไลน์ เพราะถือว่าเป็นคนละ ศาสตร์และศิลป์ กับการจัดอีเวนต์สด ออนไลน์มีกระบวนการทำงาน และวิธีสร้างประสบการณ์ที่ต่างกัน และนี่คือโอกาสใหม่ของคนที่มีความเชี่ยวชาญนี้

สรุป

ผู้เกี่ยวข้องต่างเห็นตรงกันแล้วว่า พวกเราจะยังอยู่กับสถานการณ์ โควิด-19 ไปอีกตลอดปี 2020 ทั้งปี และสถานการณ์น่าจะบรรเทาจนเกือบเป็นปกติประมาณปลายปี 2021 เป็นอย่างเร็ว แต่ด้วยระยะเวลาที่นานขนาดนี้ ย่อมทำให้ พฤติกรรม และ ไลฟ์สไตล์ ของผู้บริโภคเปลี่ยนไป และอาจเปลี่ยนไปแบบถาวร

ผู้ประกอบการจะต้องไม่ชะล่าใจว่าหลังจบสถานการณ์แล้วทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม แต่ขอให้ตรวจสอบ วัดผล ประเมินสถานการณ์ เพื่อค้นหาว่าท่านจะสามารถปรับตัวหรือดิสรัปต์ธุรกิจของตนอย่างไรได้บ้าง ไม่ใช่เพื่อแค่ให้อยู่รอด แต่เติบโตอย่างมั่นคงหลังจากจบวิกฤตินี้ไป

อ่านบทความที่เกี่ยวข้อง