จากผลสำรวจของ Pew Research Center พบว่าชาวอเมริกันกว่า 70 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่างานหรืออาชีพของตนเองยังคงปลอดภัยจากการถูกแทนที่ด้วยระบบอัตโนมัติหรือหุ่นยนต์ อย่างน้อยที่สุดก็ในช่วงชีวิตของพวกเขา(หรือจนกว่าเขาจะเกษียณ) หุ่นยนต์ถึงจะมาแทนที่ ในขณะที่มีเพียง ไม่กี่คนที่บอกว่าหุ่นยนต์หรือระบบอัตโนมัติจะทำให้เขาเสียรายได้หรือเสียงานที่ทำอยู่
มีเพียง 30% ของผู้ตอบแบบสอบถามเท่านั้นที่กังวลว่า มีความเป็นไปได้สูงที่งานของตนเองจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ ในขณะที่ 70% กังวลน้อยมากหรือแทบจะไม่กังวลเลยว่างานของตัวเองจะถูกแย่ง
Pew ให้ความสำคัญกับการศึกษาในเรื่องนี้เป็นอย่างมาก “สำหรับบางคนจะเชื่อว่านี่คงไม่ใช่เรื่องจริง จนกว่ามันจะเกิดกับพวกเขาจริง ๆ” แอรอน สมิธ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัย Pew กล่าว “ประชาชนรับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว และรู้ดีว่างานและอาชีพจำนวนหนึ่งจะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ตลอดทศวรรษที่ผ่านมา แต่น้อยคนที่จะคิดว่างานของตัวเองกำลังจะถูกแย่ง”
แต่จากการสำรวจของ Bloomberg Beta พบว่า งานกว่า 47% ในอเมริกามีความเสี่ยงที่จะถูกแทนที่โดยหุ่นยนต์
และด้านล่างนี้คืออาชีพที่กลุ่มสำรวจของ Pew จัดอันดับว่า น่าจะถูกทดแทนด้วยหุ่นยนต์ก่อนอาชีพอื่น
- พนักงานในร้านอาหารจานด่วน 77%
- พนักงานเคลมประกัน 65%
- วิศวกรซอฟต์แวร์ 53%
- ครู 36%
- งานของตัวเองในปัจจุบัน 30%
- พยาบาล 20%
สาเหตุของการมองโลกในแง่ดีของชาวอเมริกันนั้นก็มีเหตุผล จากการศึกษาของ Pew พบว่า มีการทำวิจัยเมื่อหลายปีก่อน และพูดถึงการถูกแทนที่งานด้วยหุ่นยนต์เช่นกัน แต่ ณ ตอนนั้น มีผู้ที่มีความกังวลสูงมาก แต่ในที่สุด ณ ปัจจุบันนี้ งานของมนุษย์ก็ถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์ค่อนข้างน้อย กลุ่มสำรวจนี้จึงพากันคิดว่า อย่างน้อยกว่าที่งานของเขาจะถูกแทนที่อย่างสมบูรณ์ก็ต้องใช้เวลาถึง 20 ปี (ซึ่งอาจจะเกษียณ หรือตายไปแล้วก็ได้)
ผู้คนยังไม่เชื่อมั่นในรถยนต์ไร้คนขับ
ถ้าจะให้กังวลว่าหุ่นยนต์จะมาแย่งงาน ชาวอเมริกันส่วนใหญ่กลับกังวลเกี่ยวกับรถยนต์ไร้คนขับ และบอกว่าจะไม่นั่งในรถที่ไม่มีคนขับเด็ดขาด เนื่องจากกังวลว่าจะเกิดอุบัติเหตุ มีกลุ่มสำรวจ 30% กังวลว่าอุบัติเหตุจะเพิ่มขึ้น ในขณะที่ 31% คิดว่าอุบัติเหตุจะใกล้เคียงกัน และ 39% คิดว่าอุบัติเหตุจะลดลงถ้าใช้รถยนต์ไร้คนขับ
ในขณะที่อีกหลายคนให้ความเห็นว่า อย่างไรก็ตามก็ยังควรจะมีรถที่ใช้คนขับอยู่ เพราะเวลาฉุกเฉินการตัดสินใจของมนุษย์และการขับขี่ที่รวดเร็วจะช่วยเหลือชีวิตคนได้มากกว่าหุ่นยนต์ และมีมากกว่า 80% บอกว่า ต้องการให้รถยนต์ไร้คนขับไปอยู่ในเลนพิเศษไม่ต้องวิ่งร่วมกับรถทั่วไป เนื่องจากกังวลเรื่องความปลอดภัย
– ในประเด็นนี้ Elon Musk เคยกล่าวไว้หลังจากที่มีผู้ใช้รถยนต์ Tesla เปิดโหมด Auto Pilot แล้วเกิดอุบัติเหตุจนผู้ขับขี่เสียชีวิตว่า “คุณจะกังวลอุบัติเหตุกับรถยนต์ที่ขับเคลื่อนอัตโนมัติ ที่เพิ่งจะมีข่าวอุบัติเหตุไม่กี่ครั้ง แต่ในขณะที่รถยนต์ที่ขับโดยมนุษย์มีอุบัติเหตุวันละหลายร้อยครั้ง ผมคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่เมคเซ้นส์เลย” –
สรุป เราควรกังวลหรือไม่
เราไม่ควรกังวล แต่ควรตื่นตัวตลอดเวลา และตระหนักว่า งานทุกอย่างที่เราเห็นในวันนี้ มันอาจจะหายไปในวันพรุ่งนี้ก็เป็นได้ ความคิดที่ว่า “มันคงไม่เกิดขึ้นในชั่วอายุของเราหรอก” “มันอาจจะเกิดกับอาชีพอื่นแต่คงไม่ใช่กับอาชีพเราหรอก” อาจจะทำให้รู้สึกอุ่นใจ แต่ในความเป็นจริงกลับเป็นการทำให้เราไม่เตรียมพร้อม และกว่าจะรู้ตัว มันก็สายเกินไปเสียแล้ว
อย่ากลัวแค่หุ่นยนต์ แต่จงกลัวมนุษย์ด้วยกัน ที่คุณต้องทำคือพัฒนาตนเอง จนไม่มีใครสามารถทำแทนคุณได้ ไม่ว่าจะเป็นงานประจำ หรือธุรกิจส่วนตัวก็ตาม ลองคิดว่า หากพรุ่งนี้ไม่มีคุณแล้ว งานนั้นจะยังอยู่หรือไม่ ถ้าคำตอบคือใช่ แปลว่า งานนั้นหรืออาชีพนั้นน่ะมั่นคง แต่ที่ไม่มั่นคงคือตัวของคุณเองต่างหาก
และหากคุณชอบใน Content ที่ทาง CEO Blog ได้นำเสนอ ในเร็ว ๆ นี้ ทาง CEO Blog ของเรานั้น กำลังจะมีโปรเจค CEO Premium Content ซึ่งเป็น Content ด้านการค้าปลีกออนไลน์ แบบพรีเมี่ยม ที่หาอ่านไม่ได้บน Blog ปกติของ CEO Blog โดยจะเปิดรับสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมในเร็ว ๆ นี้
หากคุณไม่อยากพลาด Content ระดับ Premium สามารถลงทะเบียนเพื่อรับแจ้งข่าวสารได้ที่นี่ก่อนใครเลยครับ รับรองได้เลยว่ามันเป็น Content ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่คุ้มสุด ๆ อย่างแน่นอน >>> ลงทะเบียนรับข่าวสารที่นี่ก่อนใคร
Resources: