ไอเดียสร้างรายได้ไม่ต้องสต็อก ไม่ต้องแพ็ก ไม่ต้องส่ง กับ Affiliate marketing


ขายสินค้า Physical products ทั่วไปต้องมี การผลิต หรือ สต็อก, ต้องแพ็ก, และต้องขนส่งสินค้าไปให้ลูกค้า ในขณะที่การขายของออนไลน์แบบ Dropship จะตัดกระบวนการทั้งหมดออกไป เหลือแค่ดีลสินค้ามาไว้ในพอร์ตธุรกิจ และอาจจะต้องสื่อสารกับลูกค้าบ้างเพื่อปิดการขาย

แต่ในตอนนี้คุณกำลังจะพบกับโมเดลขายสินค้าออนไลน์ที่มาเหนือกว่านั้น โมเดลที่คุณ ไม่ต้องผลิต, ไม่ต้องสต็อก, ไม่ต้องแพ็ก, ไม่ต้องส่ง, ไม่ต้องดีล, และไม่ต้องขาย!

หน้าที่คุณมีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น คือ ทำให้คน Click ไปยังหน้าขายสินค้าของผู้ขายและเกิดการสั่งซื้อ จบ! – โมเดลทำเงินนี้เรียกว่า Affiliate marketing

Affiliate Marketing คืออะไร

Affiliate คือ ตัวแทน หรือ นายหน้าขายสินค้า โดยเจ้าของสินค้าและร้านค้าออนไลน์สร้างและเปิดระบบ Affiliate program ขึ้นเพื่อให้คนมาสมัครเป็น Affiliate partner และนำสินค้าและบริการของกิจการนั้น ๆ ไปประชาสัมพันธ์

Affiliate program เป็นที่นิยมมากในอเมริกา และเกือบทุกธุรกิจออนไลน์มีการเปิด Affiliate program เพราะเป็นที่ทราบดีว่า ค่าโฆษณาออนไลน์ของอเมริกานั้นแพงกว่าของไทยมาก และการเพิ่มยอดขายและขยายธุรกิจที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า คือ การสร้างเครือข่าย Affiliate นั่นเอง

ส่วนคนที่มาสมัครเป็น Affiliate partner จะมี Affiliate ID ในลิงค์สินค้าที่นำไปทำการตลาด เมื่อลูกค้า Click ที่ลิงค์ของ Affilliate ID นั้น ๆ ลูกค้าจะถูกนำส่งไปยังหน้าขายสินค้าของเจ้าของแบรนด์ และเมื่อการสั่งซื้อเสร็จสมบูรณ์และนำส่งสินค้าเรียบร้อย Affiliate marketer จะได้รับค่านายหน้าเป็นเปอร์เซ็นต์ โดยมากจะอยู่ระหว่าง 3 – 7 เปอร์เซ็นต์

จะเห็นว่าผลตอบแทนอาจไม่สูงมาก กล่าวคือ

  • หากคุณทำแบรนด์ขายเอง คุณอาจมีอัตรากำไรขั้นต้นมากกว่า 100%
  • ซื้อมาขายไปสินค้าของคนอื่น อาจมีอัตรากำไรขั้นต้น 30 – 60%
  • Dropship อาจมีอัตรากำไรขั้นต้นเพียง 15 – 20%
  • ในขณะที่ Affiliate จะเหลืออัตรากำไรขั้นต้นเพียงไม่เกิน 10%

แม้จะดูน้อยนิด แต่มันก็สมเหตุสมผลใช่หรือไม่ เมื่อเทียบกับความเสี่ยงที่ลดหลั่นกันไป ผลิตแบรนด์ขายเองเสี่ยงสูงที่สุด หากทำสำเร็จกำไรเยอะสุด แต่หากไม่สำเร็จคือหมดตัว!

ในขณะที่ Affiliate marketing นั้น ความเสี่ยงน้อยมาก คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ 1 อันและทำ Affiliate ให้สินค้าได้หลายชนิด และยังสามารถ Pivot โมเดลรายได้ของเว็บไซต์ได้หลายทาง

ตัวอย่างเว็บไซต์ทำเงินจาก Affiliate

BestReviews.com เป็นเว็บไซต์รีวิวสินค้าที่มีบทความรีวิวเยอะมาก รวมไปถึงบทความ In-trend ต่าง ๆ โดยแต่ละบทความจะมีลิงค์ไปซื้อสินค้าที่ Amazon.com ยกตัวอย่าง

บทความ 20 Best Holiday Gifts of 2019 เป็นบทความประเภท List post ด้านในจะแนะนำสินค้า 20 ชนิดสำหรับซื้อเป็นของขวัญต้อนรับเทศกาล โดยแต่ละชนิดที่นำมาแนะนำก็จะมีลิงค์ไปสั่งซื้อสินค้าที่ Amazon.com

 

บทความ Best Wine Glass Sets ก็จะมารีวิวเชิงเปรียบเทียบ หรือที่เรียกว่า Pros and Con ของสินค้า และมีลิงค์สั่งซื้อที่ Amazon.com นอกจากรีวิวแล้ว ภายในบทความยังมี How-to วิธีเลือกซื้อแก้วไวน์อีกด้วย เรียกว่าครบวงจร อ่านจบสามารถตัดสินใจซื้อผ่านเว็บไซต์นี้ได้เลย


BestReviews.com มีคนเยี่ยมชมเว็บไซต์ในไตรมาสที่ 4 ปี 2019 เฉลี่ยประมาณ 4 ล้านครั้งต่อเดือน ทราฟฟิกประมาณ 43% มาจาก Search traffic และประมาณ 40% มาจาก โฆษณาออนไลน์ – เว็บไซต์ crunchbase ประมาณการณ์รายได้ของ BestReviews.com ที่ 3 ล้านดอลลาร์ต่อปี หรือ ราว ๆ 90 ล้านบาท 

ถึงแม้ค่านายหน้าจากการเป็น Affiliate marketer จะต่ำเพียงไม่ถึง 10% แต่ปริมาณทราฟฟิกเข้าเว็บมหาศาลก็ส่งผลให้เกิดรายมหาศาลเช่นกัน และอย่างที่บอกไปว่า 1 เว็บไซต์มีหลายโมเดลรายได้ นอกจาก Affiliate marketing แล้ว BestReviews.com ยังมีรายได้จาก Sponsored content อีกด้วย

หากคุณรู้สึกว่าการรีวิวแนว ‘Everything ทุกสิ่งอย่าง’ แบบนี้กว้างเกินไปทำอย่างไร?

คุณก็สามารถเจาะจงเป็น Niche ที่สนใจหรือถนัดได้เช่นกัน ยกตัวอย่าง DigitalPhotographySchool.com เว็บไซต์ให้ความรู้เรื่อง กล้อง และ การถ่ายภาพ และแนะนำสินค้าพร้อมลิงค์ไปซื้อที่เว็บไซต์ Amazon.com

ตัวอย่างบทความ Your Workflow for Styling Food Photography ให้ความรู้วิธีถ่ายภาพอาหาร แนะนำกล้องและเลนส์ จากนั้นติดลิงค์ส่งไปซื้อกล้องที่ Amazon.com


DigitalPhotographySchool.com ไม่ปล่อยให้พื้นที่เสียเปล่าโดยการติดป้ายโฆษณา GoogleAdSense ซึ่งในอดีตเคยมีปัญหาการทำ Amazon affiliate และ Google AdSense ในเว็บไซต์เดียวกัน แต่ตอนนี้กฏบางอย่างอาจจะถูกพัฒนาใหม่แล้ว – อันนี้ต้องไปศึกษากฏเขาให้ดี ๆ นะครับ

เท่านั้นยังไม่พอ DigitalPhotographySchool ยังมีสินค้าของตัวเองเป็น คอร์สเรียน และ อีบุค สอนถ่ายภาพ เรียกว่าใช้พื้นที่คุ้ม และต่อให้วันหนึ่งมีปัญหากับ Amazon หรือกับ Google AdSense แต่ที่จะไม่มีวันจากไปไหน คือ สินค้าของตัวเอง


ทั้ง BestReviews และ DigitalPhotoGraphySchool มีคนทำแนวทางที่คล้ายกันในไทยและกับเว็บภาษาไทยสำเร็จแล้ว ได้แก่ promotions.co.th จะลงข่าวโปรโมชันและติดลิงค์ Affiliate ไปยังแบรนด์ต่าง ๆ เช่น ธนาคาร บัตรเครดิต ประกัน และ ลาซาด้า เป็นต้น

ส่วนเว็บไซต์ shutterphoto.com ของคนไทยซึ่งก่อนหน้านี้จะมี รีวิวและแนะนำสินค้า และขายหลักสูตรสอนถ่ายภาพต่าง ๆ แต่หน้าเว็บไซต์ที่เห็นในปัจจุบันไม่มีแล้ว ไม่แน่ใจว่าย้ายแพลทฟอร์มหรือไม่อย่างไร

หรือ Worse case ที่สุดจริง ๆ ถ้าคุณบอกว่าไม่ถนัดทั้งหมดที่ว่ามาเลย ถนัดอย่างเดียว คือ เขียนเรื่อยเปื่อย แบบไดอารีออนไลน์จะได้หรือไม่?

ในต่างประเทศมีตัวอย่างเว็บไซต์ dooce.com เป็นแม่บ้านเขียน Blog เล่าประสบการณ์ต่าง ๆ และแนะนำสินค้าที่เธอใช้ อารมณ์ก็คล้าย ๆ Youtuber หรือ คุณจะทำบน Youtube ก็ได้ แล้วติดลิงค์ Affiliate

สรุปไอเดียการทำเว็บไซต์เพื่อสร้างรายได้จาก Affiliate Marketing

คุณสามารถทำคอนเทนต์หลัก ๆ 3 ประเภท ได้แก่

Review : ได้แก่ รีวิวสินค้า เล่าสตอรี่ความเป็นมา สรรพคุณต่าง ๆ สร้างประสบการณ์ใช้งานโดยการใช้สินค้าให้ดู

Compare : หรือ Pros and Con เปรียบเทียบสินค้าชนิดเดียวกันจาก 2 แบรนด์ให้ดูแบบหมัดต่อหมัด

Educate : คือการให้ความรู้ สอนการใช้งาน ให้ลูกค้าเข้าใจและเชี่ยวชาญการใช้ผลิตภัณฑ์อย่างเกิดประโยชน์สูงสุด พอคนทำเป็นเขาก็ไปซื้อที่ไหน ก็ซื้อจากที่ที่คุณแนะนำนั่นเอง

วิธีสมัครเป็น Affiliate partner กับแบรนด์ต่าง ๆ

ให้ไปยังเว็บไซต์เป้าหมายและหาคำว่า Affiliate program หรือ Associates progam หรือ Referral program โดยมากจะอยู่ตรงบริเวณ Footer ของหน้าโฮมเพจของเว็บไซต์ แล้วกดเข้าไปเพื่อสมัครเปิดบัญชี Affiliate partner

เจ้าของแบรนด์ หรือ เจ้าของแพลทฟอร์ม จะต้องรีวิวเว็บไซต์ของคุณว่าเหมาะสมจะเป็นพาร์ทเนอร์กับเขาหรือไม่ ฉะนั้นคุณควรเตรียมเว็บไซต์ไว้แต่เนิ่นก่อนสมัคร Affiliate ระยะเวลาในการรอการตรวจสอบอาจอยู่ระหว่าง 3 – 7 วันเป็นอย่างเร็ว และ 14 – 21 วันเป็นอย่างช้า หากนานกว่านั้นให้ทำใจ

แนะนำว่าเมื่อคุณพัฒนาเว็บไซต์จนมีความพร้อมอันประกอบด้วย หน้าเว็บไซต์ที่สวยงามและเป็นระบบระเบียบ, มีเนื้อหาคุณภาพพอสมควร, มีคอมมิวนิตี้ที่น่าเชื่อถือ อาทิ แฟนเพจที่มีคนติดตามและมี Engagement หรือ มี Email list อยู่ในมือ คุณก็เริ่มไล่สมัครเป็น Affiliate partner กับแบรนด์เป้าหมายหลาย ๆ แห่งแต่เนิ่น ๆ ไม่ว่าคุณจะโปรโมทสินค้าให้เขาหรือไม่ก็ตาม

หากองค์ประกอบพร้อม กลุ่มเป้าหมายตรงกับแบรนด์ โอกาสที่จะได้รับการอนุมัติจะอยู่ที่ประมาณ 60 – 70% ขึ้นไป

รวมบทความเกี่ยวกับ หาเงินออนไลน์ทั้งหมด ที่นี่