4 ช่องทางสร้างคอร์สออนไลน์ สำหรับมือใหม่เริ่มต้นง่ายและใช้ฟรี

อัพเดทเนื้อหาล่าสุด 17 กรกฏาคม 2024

CEO Channels จะมาแนะนำ 4 ช่องทางขายคอร์สออนไลน์สำหรับมือใหม่ โดยความ ‘ใหม่’ ในที่นี้อาจหมายถึงผู้ที่ทำอาชีพสอนแบบ ออฟไลน์ มาก่อน แต่ยังไม่เคยทำเป็นออนไลน์อย่างจริงจัง หรือผู้ที่ไม่เคยสอนมาก่อนเลย และกำลังอยากเริ่มต้นสอนแบบออนไลน์ดูบ้าง เป็นต้น ฯลฯ

********** ********** **********
เรียนฟรี! มินิคอร์ส Expert Business Basic คลิกเพื่อรับลิงค์เข้าเรียนทันที
********** ********** **********

โดยทั้ง 4 ช่องทางนี้เริ่มต้นง่าย และประหยัดเงินลงทุนในการพัฒนาระบบ ไปจนถึงอาจไม่ต้องใช้เงินลงทุนกับระบบใด ๆ เลย ได้แก่ Social media, Video conference, Course marketplace และ LMS Software แต่ละช่องทางมีจุดเด่นจุดด้อย และใช้งบประมาณเท่าไรกันบ้าง มีรายละเอียดดังต่อไปนี้

1. สอนออนไลน์ผ่าน Social media

จำนวนเงินลงทุนกับระบบ: 0 บาท ตลอดกาล

จุดเด่น

Social media ในบริบทนี้จะหมายถึง Facebook, โดยจุดเด่นของ Facebook คือ เป็นช่องทางสอนออนไลน์ยอดนิยมสำหรับรายย่อยและผู้เริ่มต้นในประเทศไทย เหตุเพราะเริ่มต้นง่าย และฟรี

กล่าวคือ แทบทุกคนมีเฟซบุ๊คอยู่แล้ว ใช้งานเฟซบุ๊คคล่องแคล่ว และเปิด Facebook group ประเภท ‘กลุ่มลับ’ เพื่อเชิญเฉพาะคนที่ชำระเงินเข้ากลุ่มมาเรียนเนื้อหาของคุณได้โดยง่าย โดยที่คุณไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการสร้าง Facebook group

ข้อจำกัด

Facebook ไม่ใช่แพลทฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อเป็นระบบโรงเรียนออนไลน์โดยเฉพาะ ดังนั้นการบริหารจัดการต่าง ๆ อาจทำได้ยากขึ้นในกรณีที่คุณต้องการจะขยายกิจการไปสู่การมีหลายสิบคอร์ส หรือหลายร้อยคอร์ส

เมื่อขนาดของธุรกิจคอร์สออนไลน์โตขึ้น การบริหารคอนเทนต์, การจัดระเบียบการใช้งาน, การวิเคราะห์สถิติและวัดผลในธุรกิจต่าง ๆ ภายในหน้าจอเดียว รวมไปถึงการสร้างระบบกึ่ง Automation ให้กิจการมีความเป็นอัตโนมัติหน่อย ๆ เหล่านี้ไม่สามารถทำได้บน Facebook

ข้อควรระวังอีกเรื่อง คือ หากวันดีคืนดี บัญชีเฟซบุ๊คของคุณมีปัญหา มีข้อพิพาท ถูกปิดระงับไม่ว่าชั่วคราวหรือถาวร คุณจะไม่สามารถเข้าถึงกิจการคอร์สออนไลน์ที่คุณโฮสต์ไว้บน Facebook เช่นกัน

2. สอนออนไลน์ผ่าน Video conference software

จำนวนเงินลงทุนกับระบบ: 0 บาท แบบจำกัดการใช้งาน

Video conference software หรือ โปรแกรมวีดีโอทางไกล อาทิ Zoom เริ่มมีบทบาทในการนำมาใช้สอนออนไลน์ในช่วงเหตุการณ์ ไวัรสโควิด-19 ระบาด นับตั้งแต่ปี 2019 โดยผู้สอนที่ใช้ วีดีโอคอนเฟอร์เรนซ์ จะมุ่งเน้นการสอนสดเป็นหลัก

จุดเด่น

กรณี Zoom ใช้งานง่าย และเริ่มต้นฟรี รองรับผู้ร่วมประชุม 100 คน ต่อเนื่อง 40 นาที แต่หากต้องการปลดล็อกโควต้า และฟังชั่นการใช้งานเพิ่ม Zoom มีแพ็กเกจ Pro เริ่มต้นที่ 14.99 ดอลล่าร์ ต่อเดือน คุณจะสามารถโฮสต์การประชุมทางวีดีโอเบื้องต้น 100 คน ต่อเนื่อง 30 ชั่วโมง และมี Add-on เพื่อขยายให้เป็นหลักพันคนได้

การสอนผ่าน Zoom มีบางอย่างที่คล้ายการสอนผ่าน Facebook Group อาทิ เริ่มต้นง่าย ติดตั้งง่าย และใช้งานง่าย คนจำนวนมากรู้จักโปรแกรมอยู่แล้ว ผู้โฮสต์รายการเพียงส่งลิงค์เชิญให้ผู้ชมหรือผู้เรียนที่มีบัญชีคลิกที่ลิงค์เพื่อ Join meeting ได้ทันที

ข้อจำกัด

Zoom เหมาะกับการสอนสด การโค้ชชิงตัวต่อตัว และการจัดออนไลน์มีตติ้งนักเรียนเพื่อติดตามผล และสร้างความสัมพันธ์ต่อเนื่อง แต่ในขณะเดียวกัน Zoom ไม่ได้ออกแบบมาให้เป็นเครื่องมือสำหรับทำธุรกิจโรงเรียนออนไลน์โดยเฉพาะ ดังนั้นจึงอาจไม่เหมาะที่จะใช้เป็นแพลทฟอร์มโรงเรียนออนไลน์เต็มรูปแบบ

3. สอนออนไลน์ผ่าน Course marketplace

จำนวนเงินลงทุนกับระบบ: 0 บาท ตลอดกาล และแบ่ง % ต่อเมื่อขายได้

Course marketplace อาทิ SkillLane, CourseSquare, TaladPanya, FutureSkill เป็นต้น คือ แพลทฟอร์มที่ทำหน้าที่มีคอร์สเรียนและผู้สอนจำนวนมากภายในเว็บไซต์เดียว และให้คนสามารถมาช้อปปิงซื้อคอร์สได้อย่างสะดวก

จุดเด่น

จุดเด่นของ Course marketplace คือ มีระบบฟรอนต์เอ็นด์ และแบ็กเอ็นด์ที่สมบูรณ์ และออกแบบมาเพื่อธุรกิจโรงเรียนออนไลน์โดยเฉพาะ ใช้งานง่ายทั้งฝั่งผู้สอน และผู้เรียน บางค่าย อาทิ SkillLane มีสตูดิโอถ่ายทำคอร์สให้กับผู้สอน เรียกว่าไปแต่ตัวกับคอนเทนต์ ที่เหลือเขาทำให้ทั้งหมด

และประกอบกับเจ้าของแพลทฟอร์มอาจมีการทำการตลาดอยู่เสมอ ทำให้มีคนเข้าเว็บไซต์จำนวนมาก กรณี CEO Channels มีคอร์สออนไลน์อยู่บน SkillLane มากกว่า 10 คอร์ส เดือนที่จัดโปรโมชันก็อาจจะได้ยอดขายสูงขึ้น

แต่ในช่วงปล่อยไหลไปตามธรรมชาติก็จะมียอดขายมาเรื่อย ๆ ระหว่าง 5,000 – 30,000 บาท ต่อเดือน และรับแบบนี้ทุกเดือนมาเป็นเวลาหลายปีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง และโดยที่ไม่มีการทำการตลาดใด ๆ ถึงเวลาตัดยอด SkillLane โอนเงินเข้าบัญชีให้ทุกเดือน เป็น Passive income 100%

ข้อจำกัด

1. มีคอร์สที่คล้ายกันกับคุณเป็นจำนวนมากวางขายร่วมกันในเว็บไซต์ ลูกค้ามีโอกาสเห็นตัวเลือกและเกิดการเปรียบเทียบกันแบบซึ่ง ๆ หน้า

2. ไม่เหมาะในการขายคอร์สราคาสูง เพราะราคาคอร์สโดยเฉลี่ยใน Marketplace อาจอยู่ที่ 1 – 4 พันบาท หากคอร์สของคุณมีราคา 7 – 8 พันบาท หรือหลักหมื่นบาท อาจจะขายออกได้ยากมาก

3. แบ่งส่วนแบ่งจากยอดขายของคุณให้แก่แพลทฟอร์ม อัตราส่วนแบ่งของแต่ละแพลทฟอร์มแตกต่างกันไป โดยให้คุณเผื่อใจไว้คร่าว ๆ ที่อัตรา 50/50 ส่วนอัตราที่แน่นอนของแต่ละค่าย คุณจะต้องสอบถามกับทางค่ายโดยตรงอีกครั้ง

4. ใช้โปรแกรม LMS สร้างโรงเรียนออนไลน์ของคุณเอง

จำนวนเงินลงทุนกับระบบ: 0 บาท แบบจำกัดการใช้งาน

Learning management system หรือ เรียกสั้น ๆ ว่า LMS คือ โปรแกรมบริหารระบบโรงเรียนออนไลน์ ซึ่งในตลาดซอฟต์แวร์มีหลากหลาย ทั้ง LMS Plugin ที่ต่อเข้ากับโปรแกรมทำเว็บไซต์ WordPress โดยคุณทำงานภายใต้เว็บไซต์ WordPress ของคุณเอง

หรืออีกกรณี เป็นโปรแกรม LMS สำเร็จรูปที่คุณเข้าไปทำงานภายใต้ระบบของเจ้าของโปรแกรม ซึ่งโดยมากเป็นระบบ Cloud-base หรือ คลาวด์ คือ ไม่ต้องดาวน์โหลดและติดตั้งโปรแกรมใด ๆ แต่ไปสมัครใช้บริการ LMS เจ้านั้น ๆ ผ่านเว็บไซต์ และรันธุรกิจทั้งหมดจากที่ไหนก็ได้ผ่านคลาวด์เว็บเบส


จุดเด่น

โปรแกรมเหล่านี้ ส่วนใหญ่เริ่มต้นฟรี แต่จำกัดการใช้งาน หรือจำกัดระยะเวลาทดลองใช้ เช่น ทำลองใช้ฟรี 7 – 14 วัน จากนั้นต้องจ่ายเงินเพื่อจะใช้งานต่อ รวมไปถึงปลดล็อกฟังชั่นการใช้งานขั้นสูง เช่น คุณสามารถจดโดเมนเนมเป็นแบรนด์ของคุณ แล้วเชื่อมเข้ากับระบบ LMS เหล่านั้นให้เสมือนเป็นเว็บไซต์ที่คุณพัฒนาขึ้นเองกับมือ จุดนี้เองครับที่คุณสามารถพูดได้เต็มปากมากขึ้นว่า คุณคือเจ้าของกิจการโรงเรียนออนไลน์ของตัวเอง

กรณีโรงเรียนออนไลน์ Expertsity ของผู้ก่อตั้ง CEO Channels ใช้โปรแกรมของ Teachable.com

ผู้ให้บริการประเภทเดียวกันยังมีหลายค่าย อาทิ:

  • Kajabi
  • Podia
  • Teachery
  • Thinkific
  • ฯลฯ

ข้อจำกัด

1. มีค่าใช้บริการรายเดือนและราคาสูง คุณจะต้องจ่ายค่าเช่าระบบเป็นรายเดือน หรือรายปี ไม่ว่าคุณจะขายคอร์สได้หรือไม่ก็ตาม อาทิ Teachable มีค่าเช่าบริการใช้ระบบเริ่มต้น 59 ดอลล่าร์ ต่อเดือน

2. ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ระบบ ด้วยความที่มันเป็นซอฟต์แวร์ ก็ต้องมานั่งทำความเข้าใจ อะไรอยู่ตรงไหน ฟังชันไหนใช้อย่างไร โดยในตอนแรกอาจจะยุ่งยากนิดหน่อย แต่เมื่อคุ้นชินแล้วก็ง่ายขึ้น

3. ต้องทำการตลาดอย่างหนักหน่วง ต่างจาก Marketplace และ Facebook ที่มีคนหมุนเวียนในพื้นที่เหล่านั้นจำนวนมากอยู่แล้ว แต่การมาเปิดเว็บไซต์ที่เป็นแสตนด์อโลนของตัวเอง คุณต้องหาคนเข้าเว็บไซต์แบบเริ่มจากศูนย์ซึ่งเป็นงานหนักทีเดียว

สรุป

ช่องทางสอนออนไลน์ในบริบทนี้มี 4 ช่องทาง ได้แก่ Facebook, Zoom video conference, Marketplace และ สร้างเว็บโรงเรียนด้วยโปรแกรม LMS

โดยในช่วงแรกอาจเริ่มจาก Facebook หรือ Zoom ก่อนเพื่อความเร็ว ง่าย และประหยัด จากนั้นแบ่งคอร์สที่ทำเสร็จแล้วไปวางใน Marketplace และหาเวลาพัฒนาเว็บของตัวเองเพื่อที่จะขยายกิจการสอนออนไลน์ให้ใหญ่ขึ้น

********** ********** **********
เรียนฟรี! มินิคอร์ส Expert Business Basic คลิกเพื่อรับลิงค์เข้าเรียนทันที

********** ********** **********

คุณอาจสนใจ