3 วิธีเขียนหน้า About Me ให้คนรู้สึกว่าคุณคือ Blog ที่ใช่ภายใน 3 วินาที

Write About Me Page Image

เนื้อหาที่มีคุณภาพดีภายในบทความมีความสำคัญเป็นอันดับต้นๆของบล็อกหรือที่ฝรั่งเรียกว่า Contents is King แต่สิ่งที่มีความสำคัญต่อมาจาก Contents ก็คือหน้า About Me (หรือ About Us)

จากการศึกษาและเก็บสถิติอย่างไม่เป็นทางการ Blogger ฝรั่งฟันธงว่าหน้า About Me เป็นหน้าที่สองรองจาก Home Page ที่ผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์เข้าไปอ่านกล่าวคือเมื่อผู้คนมีโอกาสพบกับบล็อกของคุณไม่ว่าจะมาจาก Search Engine หรือ Guest Post หรือ Social Share หลังจากที่เขาอ่านบทความแรกที่เขาเข้ามาเจอและอ่านจนจบตั้งแต่แรกเจอ (ซึ่งแปลว่าบทความของคุณดีพอ) เนื้อหาถัดไปที่เขาจะเข้าไปดูก็คือหน้า About Me เพราะเขาต้องการที่จะรู้ว่า คุณเป็นใคร, ทำบล็อกหรือเว็บไซต์เพื่ออะไร และ เขาจะได้อะไรจากการติดตามบล็อกของคุณ

ผมเองมีความรู้สึกว่าการเขียนหน้า About Me ถือว่าเป็นการเขียนที่ยากและท้าทายพอตัว จะเขียนยังไงให้มันดึงดูดและน่าติดตาม เพราะหากเขียนเรียบๆมันก็เหมือนการ Lecture อัตชีวประวัติตัวเอง หรือไม่ก็ Resume บอกคุณวุฒิเพื่อเตรียมสมัครงาน การเขียนเรียบๆ พื้นๆ อาจทำให้หน้าเบื่อหรือไม่ตรงจุด บางครั้งอ่านแล้วก็ไม่รู้ว่าเว็บไซต์มีวัตถุประสงค์อะไร บางครั้งอ่านแล้วดูไม่เป็นมืออาชีพ ผมเลยลองสรุปวิธีเขียนหน้า About Me แนะนำตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพ 3 ข้อ

1. ทำให้คนรู้ภายใน 3 วินาทีว่าบล็อกเกี่ยวกับอะไร

ทำไมต้อง 3 วินาที? นักจิตวิทยามีการวิจัยว่าความสามารถในการตัดสินใจของมนุษย์อยู่ที่ 3 วินาที หากเกินกว่านั้นคนจะสูญเสียศักยภาพในการตัดสินใจและจะเริ่มมีเรื่องของการขบคิดหรือตรรกะเข้ามาเกี่ยวข้องจนเกิดอาการ สับสน ลังเล และ คิดมาก

ผมลองเอามาใช้สังเกตกับตัวเองเวลาท่องสำรวจเว็บไซต์หรือบล็อกต่าง พบว่าหากเข้ามายัง Home page ของบล็อกแล้วไม่สามารถทำให้คนเข้าใจได้ทันทีว่าเว็บนั้นเกี่ยวกับอะไร มันมีโอกาสที่คนจะลดความสนใจที่จะอยู่ต่อ แต่คนที่เข้าชมเว็บยังมีความอดทนเพียงพอ เขาก็จะลองพยายามดูอีกครั้งที่จะเรียนรู้เว็บไซต์นั้นๆโดยการเข้าไปที่หน้า About Me และถ้าหน้า About Me ยังไม่สามารถตอบโจทย์และวัตถุประสงค์ของเว็บได้ คนๆนั้นจะไปจากเว็บและไม่คิดกลับมาอีก ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะปริมาณของเว็บไซต์และเนื้อหาในปัจจุบันมันมากมายมหาศาล คนที่ท่องเว็บเพื่อหาข้อมูลไม่ต้องการที่จะใช้เวลามากจนเกินไปในการไล่กรองเนื้อหาเพื่อหาเว็บที่ใช่ ดังนั้นเว็บไซต์ของคุณจึงจำเป็นต้องตอบโจทย์ 3 วินาทีแรกให้ได้

2. ทำให้คนรู้ว่าเข้ามาเว็บคุณแล้วได้อะไร

สิ่งที่จะตอบโจทย์ 3 วินาทีแรก คือการทำให้คนรู้ว่า เข้ามาเว็บนี้แล้วได้อะไร? คนเข้า Google เพื่อค้นหาข้อมูลที่จะนำมาแก้ปัญหาให้ชีวิต เช่น เรื่องการจีบผู้หญิง การลดความอ้วน การออกกำลังกาย การสัมภาษณ์งาน งานซ่อมคอมพิวเตอร์ การลงทุนในตลาดหุ้น ฯลฯ คนที่พบกับเว็บไซต์ต่างๆที่แสดงผลใน Search Engine Result Pages (SERPs) คาดหวังว่าผลการค้นหาที่ปรากฏอยู่นั้นจะตอบโจทย์ ให้ความรู้ความเข้าใจ และแก้ปัญหาให้กับเขาได้ คาดหวังว่าเว็บไซต์เหล่านั้นคือผู้รู้ ผู้เข้าใจปัญหาของผู้อ่าน ไม่มากก็น้อย คนจะมุ่งไปยังหน้า About Me เพื่อหาคำตอบว่าเว็บนี้ใช่หรือไม่ใช่

สำหรับเจ้าของบล็อกอาจคุ้นเคยกับการเขียน About Me แบบอัตชีวประวัติ เกิดเมื่อไร เรียนที่ไหน จบอะไรมา ทำงานอะไร รู้อะไร ซึ่งในปัจจุบัน คุณสมบัติเหล่านี้ไม่ใช่ High-Light นำของบล็อกอีกต่อไปและควรนำไปทำเป็นสรุปไว้ด้านล่างของหน้า About Me สิ่งที่คุณต้องการนำมานำเสนอก็คือ Mind Set ของบล็อก หลักการจะคล้ายกับโฆษณาสินค้าในปัจจุบันที่ไม่ได้เน้นขายคุณสมบัติของสินค้าแต่ ขายความคิด, ขายจินตนาการ, ขายแรงบันดาลใจ, ขายความรู้สึก เป็นต้น

ผมขอยกตัวอย่างเช่น ฟูกนอนอเมริกายี่ห้อ Kingsdown ไซส์ American King ราคาขายแตะหลักแสนบาท วัสดุภายในประกอบไปด้วยโฟมและขดสปริงเช่นเดียวกับที่นอนห้างบิ๊กซีราคาหมื่นกว่าบาท แต่หลักวิศวกรรมและวัสดุที่ใช้ต่างกัน ทั้งนี้ทางบริษัท Kingsdown ต้นสังกัดมีนโยบายอบรมพนักงานขายให้หลีกเลี่ยงการพูดคุยกับลูกค้าเรื่องคุณสมบัติทางวิศวกรรมศาสตร์และให้มุ่งเน้นการนำเสนอคุณสมบัติด้านสุขภาพ ความสุข และความรู้สึก โดยมี Mind Set ว่าด้วย We Sell Sleep ซึ่งเป็นหลักการที่ตัดปัญหาในเรื่องทัศนคติและอคติในหลักวิศวกรรมศาสตร์ที่มักถูกดึงเข้าไปถกเถียงกันในเรื่องราคาจนลืมปรัชญาของตราสินค้า

การเขียนคำนำเพื่อดึงความสนใจและให้คนเข้าใจในบล็อกของคุณไม่จำเป็นต้องยาวมาก Mind Set เป็นวิธีคิด หรือมุมมองในแง่บวกที่คุณมีต่อสาขาที่คุณเขียน เขียนวิธีคิดของคุณออกมาเป็นประโยคกระชับแต่เห็นภาพใหญ่หรือสัมผัสได้ในเจตนารมณ์หรือวัตถุประสงค์ (Objective) หรือ เป้าหมาย (Goal) ยกตัวอย่าง

Slide 1307005

http://www.theceoblogger.com/about/

Slide 1307002_04

http://www.problogger.net/about-problogger

Slide 1307003_04

http://www.nomadicmatt.com/about-matt/

Slide 1307004_04

http://www.fourhourworkweek.com/blog/about/

3. ทำให้คนรู้ว่าคุณผ่านประสบการณ์อะไรมาบ้าง

ประสบการณ์คือเครื่องบ่งชี้ความชำนาญหรือความเป็นมืออาชีพ เจ้าของบล็อกที่มีประสบการณ์ในสาขาที่เขียนจะมีความน่าเชื่อถือ ประสบการณ์ส่วนมากมาจากการศึกษาและ/หรือประสบการณ์ทำงานในสายงานที่เกี่ยวข้อง แต่ในขณะเดียวกันโลกของการเขียนบล็อกก็ไม่ได้มีการเรียกร้อง คุณวุฒิ, ใบปริญญา หรือเกียรตินิยมใดๆ หากผู้เขียนบล็อกสามารถถ่ายทอดประสบการณ์ออกมาได้อย่างเป็นประโยชน์แก่ผู้อ่าน บล็อกนั้นๆก็จะเกิดคนเข้าติดตามและเกิด Authorityship ขึ้นภายในบล็อก

ผู้เขียนบล็อกบางแนว เช่น คุณแม่ที่ผ่านประสบการณ์ตั้งครรภ์และเลี้ยงเด็กอ่อนจะมีประสบการณ์ตรงในการรับมือกับปัญหาและการดูแลตนเองตั้งแต่ตั้งครรภ์จนแรกคลอดไปจนถึงการเลี้ยงทารกจนสามารถพูดและยืนได้ คุณแม่เหล่านี้อาจจะอยากนำประสบการณ์มาเขียนบล็อกเพื่อสอนว่าที่ครอบครัวใหม่คนอื่นๆ หรือคนที่เคยผ่านประสบการณ์การกู้หนี้ยืมสิน การเป็นหนี้ เป็นนักเรียนทุน และสามารถล้างหนี้ได้เป็นผลสำเร็จอาจจะอยากแชร์ประสบการณ์เพื่อการบริหารและจัดการหนี้ให้แก่คนรุ่นหลังได้รู้ ได้เข้าใจ และรู้จักวางแผนการบริหารหนี้สินของตนเองอย่างเป็นระบบ เป็นต้น การเขียนหน้า About Me เหล่านี้สามารถที่จะบอกเล่าความเป็นมาเป็นไปในฐานะ ผู้มีประสบการณ์ที่ก้าวผ่านวาระสำคัญๆของปัญหานั้นๆมาได้แล้ว เพื่อบอกกับผู้อ่านว่า ถ้าผู้อ่านคือคนที่กำลังมีปัญหาเหล่านี้ บล็อกนี้ช่วยได้ ฯลฯ เป็นต้น

Slide1

http://www.leavingworkbehind.com/about-me/

Slide2

http://www.smartpassiveincome.com/about/

Slide3

http://www.paymystudentloans.com/about-me/

Feature อื่นๆที่สามารถเสริมลงไปในหน้า About Me

a) Products and Services

ในกรณีที่คุณใช้บล็อกในการโปรโมทงานและธุรกิจไปด้วย ไม่ว่าจะเป็นการมีผลิตภัณฑ์เป็นตัวเป็นตนไว้ขาย หรืองานบริการต่างๆ เช่น graphic designer, freelance writer, teacher, coach, speaker ฯลฯ คุณสามารถบอกถึงงานที่คุณทำผ่านหน้า About Me รวมไปถึงการใส่ Link ไปยังหน้าอื่นๆภายในเว็บตามที่คุณอยากจะแนะนำให้คนคลิ๊กเข้าไปเยี่ยมชม

b) Time Line of Success

ปฏิทินแห่งความ เรียงลำดับสิ่งที่คุณทำจากอดีตจนถึงปัจจุบันว่าคุณผ่านอะไรมาบ้าง ตรงนี้จะช่วยแสดงถึงการเติบโตของสายงานและประสบการณ์ที่คุณมี ช่วยสร้างความน่าเชื่อถือโดยเฉพาะในกรณีที่คุณมีการขายสินค้าและบริการของตนเองภายในบล็อก

c) Testimonial

คำชื่นชมและแนะนำจากผู้อื่นเป็นเนื้อหาที่ทรงพลังมากกว่าการที่ตัวเองชื่นชมแนะนำตัวเอง เพราะผู้อื่นเห็นดีจึงบอกต่อ หากคุณมีการขายสินค้าและบริการ คุณสามารถขอ Testimonial จากผู้ที่เคยซื้อสินค้าหรือร่วมงานกับคุณมาก่อนเพื่อมาทำ Testimonial ใส่ลงในหน้า About Me

สรุปว่าด้วยเรื่องการเขียนหน้า About Me

ผมนำเรื่องการเขียนหน้า About Me มาเป็นประเด็นเพราะจะเกี่ยวข้องกับโครงการ Blogger Platform ที่ผมจะเปิดให้เจ้าของบล็อกต่างๆได้นำบล็อกมาแนะนำกันในเว็บ The CEO Blogger โดยผมจะเปิดให้เขียนหนึ่งบทความ มาแนะนำกันไปเลยโดยผมคิดว่า Concept ของบทความแนะนำบล็อกน่าจะออกมาเป็นลักษณะคล้ายกับการเขียนหน้า About Me เพียงแต่บล็อกเกอร์นั้นๆจะต้องเขียนบทความแนะนำบล็อกของตนขึ้นมาใหม่เป็น Unique contents ไม่ซ้ำกับหน้า About Me ในบล็อกตนเองเป็นต้น ระหว่างนี้ไปผมจะมีบทความในเชิง Tutorial เพื่อเป็นแนวทางและสร้างความคุ้นเคย