9 หลักคิดรวยทัน 30 จากนักธุรกิจมือทอง by Grant Cardone

Grant Cardone เป็นหนึ่งในไอดอลที่ผมชื่นชมหลักคิดจากการติดตามเนื้อหาผ่านเว็บไซต์ GrantCardone.com และจากการอ่านหนังสือชื่อ Sell or be Sold และ The 10X Rule ที่เขาเขียนช่วยปรับมุมมองที่ผมมีต่อการขายได้พอสมควร และให้เล็งเห็นว่า การขาย เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตและต่อให้เราไม่ได้ทำอาชีพขาย เราก็ต้องขายตัวเองเพื่อแลกกับบางสิ่งบางอย่างตลอดชีวิตของเราตั้งแต่เด็กจนโต!

ปัจจุบัน Grant Cardone เป็นหนึ่งในบุคคลที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงทั้งในฝีมือการขายสินค้าราคาสูงอย่างรถยนต์และอสังหาริมทรัพย์, เป็นนักธุรกิจ, เป็นนักการตลาดออนไลน์, เป็นเจ้าของเว็บไซต์รายการทีวีออนไลน์ 

เนื่องจากการติดตามผลงานเขามานานจึงค่อนข้างรู้สึกว่า Mindset แกดีจริงและสิ่งที่ผมเรียนรู้จาก Grant Cardone สามารถสรุปเป็นแนวทางเพื่อปรับใช้ได้ดังนี้ (บทความนี้ใช้หัวข้อคิดจาก Grant C. 30% และขยายความผ่านมุมมองและประสบการณ์  CEOblog 70%)

9 หลักคิดรวยทัน 30 จากนักธุรกิจมือทอง

1. โฟกัสที่การหาเงินเพิ่ม

นักวิชาการสมัยก่อนมักสอนว่า ‘จงออมเงิน‘ แต่ Grant Cardone บอกว่าสมัยนี้ความรวยจากการออมยากและใช้เวลานาน วิธีเร่งอัตราความมั่งคั่งคือ ‘จงโฟกัสที่การหาเงินเพิ่ม

ด้วยการพัฒนาทักษะใหม่ ๆ เพื่อให้ตัวเองสามารถทำงานที่มีความยาก ทักษะในการแก้ปัญหายาก ๆ จะนำมาซึ่งรายได้ที่สูงขึ้น เมื่อรายได้สูงขึ้นจะมีเงินพอใช้และเหลือเก็บ และแบ่งเงินเก็บเงินส่วนหนึ่งไปพัฒนาธุรกิจเล็ก ๆ ควบคู่กันไป

CEOblog notes: ส่วนตัวผมพยายามออมเงินแล้วแต่ก็ประสบปัญหาใช้เงินเดือนชนเดือนและใช้เงินเกินเงินเดือนจนหมดหวังกับการออมเงิน ภายหลังหันมาพัฒนาอาชีพออนไลน์ควบคู่กันไปและพบว่าการพยายามหารายได้เพิ่มจากงานเสริมให้ผลลัพธ์น่าพอใจกว่า

งานเสริมที่เป็นอาชีพส่วนตัวสร้างรายได้มากกว่าเงินเดือน 2-3 เท่าในเวลาต่อมาทำให้มีเงินสดส่วนเกินมากกว่าค่าใช้จ่ายสูงสุดต่อเดือน ดังนั้นจึงไม่ใช่เพียงพยายามออมเงิน แต่นำเงินส่วนหนึ่งไปสร้างมูลค่าเพิ่มจึงจะสามารถสร้างกระแสเงินในอัตราเร่ง!

2. อย่าหลอกตัวเองว่ารวยด้วยการ ‘อวดรวย’

Grant Cardone ยิงตรงว่าปัญหาของคนสมัยนี้คือยอมเป็น ‘หนี้’ เพื่ออวดรวย อาทิ การใช้ของหรู ซื้อรถ และคอนโด แต่บัญชีไร้ซึ่งเงินสดและการเงินติดลบไปจนวัยบั้นปลาย

หนี้ เหล่านี้เป็นอุปสรรคสำคัญในการฉุดรั้งความมั่งคั่งให้ชีวิต การนำเงินล้านในอนาคตมาใช้ในวันนี้ทำให้คุณเป็นหนี้ไปอีกหลายสิบปีและทำให้คุณเคลื่อนตัวไม่สะดวกในวันที่อยากจะออกมาลุยเส้นทางธุรกิจ Grant บอกว่าโฟกัสที่การเพิ่มรายได้และเริ่มใช้ของแพงในวันที่รายได้ของเขามากเกินกว่าจะใช้ทัน!

CEOblog notes: ตัวผมเองเคยเป็นหนี้ก้อนใหญ่และรู้สึกเลยว่าเดือน ๆ หนึ่งเราทำงานเพื่อใช้หนี้จริง ๆ การเป็นหนี้ทำให้ไม่กล้าเสี่ยงทำในสิ่งที่แตกต่างแม้จะเห็นโอกาสอยู่ข้างหน้า วันนี้ผมเคลื่อนตัวได้เร็วเพราะไม่มีหนี้ระยะยาวอย่างรถยนต์และบ้าน ในขณะที่เพื่อนบางคนมีความฝันจะออกมาลุยเดี่ยวกับอาชีพส่วนตัวที่อยากทำก็ไม่สามารถทำได้เพราะมีหนี้ส่วนตัวระยะยาวนับล้านบาท!

3. ออมเงินเพื่อลงทุน

อย่าเอาแต่ ‘ออมเพื่อออม’ แต่จง ‘ออมเพื่อลงทุน’ — ไม่ใช่แค่ Grant C. แต่นักธุรกิจแทบทุกคนมักสอนเสมอว่าให้นำเงินเย็น ๆ ไปไว้ในหน่วยลงทุนที่คุณจะไม่ไปแตะมันเป็นปี ๆ แล้วปล่อยให้มันทำงานแทนคุณไปเรื่อย ๆ

ข้อนี้ผูกพันกับข้อ 1 และ 2 อย่างมาก เมื่อคุณมีรายได้มากขึ้นจากหลาย ๆ ช่องทาง ประกอบกับไม่มีหนี้สิน เงินสดคุณจะเพิ่มในอัตราเร่งและมีเงินเย็นมาก ๆ ส่วนหนึ่งที่ไม่น่าจะต้องใช้ไปอีกเป็นปี ๆ เงินส่วนนี้เหมาะมากในการนำไปลงทุนระยะยาวยังสินทรัพย์ต่าง ๆ อาทิ หุ้น กองทุน พันธบัตร ทองคำ ฯลฯ รวมไปถึงธุรกิจสตาร์ทอัพ (ปล. อันสุดท้ายมีความเสี่ยงสูงสุด)

CEOblog notes: N/A

4. เป็นหนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้

แม้คำเตือนว่าอย่าเป็นหนี้เพื่ออวดรวย แต่ในอีกมุมหนึ่งของการเป็นหนี้แบบนักธุรกิจคือ หนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้

Grant Cardone และนักธุรกิจหลายคนยอมรับ หนี้ ประเภทนี้ได้ และพวกเขายินดีที่จะกู้เงินเพื่อซื้อรถยนต์ขับไปขายสินค้าให้กับคนทั่วเมือง เพราะคำนวณแล้วว่ารายได้มากกว่าค่าผ่อนรถและจะสามารถปิดหนี้ได้ภายในเวลาอันสั้นกว่า

CEOblog notes: N/A

5. จงหลงใหลในมันนี่ (money)

ไม่มีใครร่ำรวยได้ด้วยใจที่เกลียดเงิน ถ้าคุณด่าเงิน จงเกลียดจงชังเงิน เงินก็จะหนีไปจากชีวิตคุณ คนรักเงินไม่ใช่คนเลว แต่เพราะเขาเข้าใจคุณค่าของมันว่าสามารถต่อยอดสู่คุณค่าอื่น ๆ ในโลกนี้ได้ดีเพียงใด รักเงินแล้วคุณจะดึงดูดเงิน

CEOblog notes: หลีกเลี่ยงการหาเหตุผลปลอบใจตัวเองที่ไม่มีเงิน เหตุผลเช่น ‘เงินซื้อไม่ได้ทุกอย่าง’ ‘เงินไม่ได้ทำให้มีความสุข’ ฯลฯ คิดไปก็เท่านั้นเพราะ ข้อแรก คุณก็ไม่ได้มีความสุขขึ้น ข้อสอง คุณก็ซื้ออะไรไม่ได้อยู่ดี และสุดท้าย คุณก็ยังไม่มีเงินเหมือนเดิม! อีกครั้งครับ จงกลับไปที่ข้อ 1 ของบทความนี้ โฟกัส! ที่การหาเงิน

6. เลิกตัดพ้อเรื่องต้นทุนชีวิต

Self-made เกิดจากการลงมือทำโดยไม่สนใจว่าต้นทุนชีวิตเขาจะต่ำขนาดไหน การโฟกัสที่สิ่งที่ขาดเป็นเรื่องเสียเวลาทำมาหากิน Grant Cardone ยกวลีของ Bill Gates ที่บอกว่า “เกิดมาจนไม่ผิด แต่ตายจากไปอย่างจน ๆ นั่นคือปัญหาของคุณ

CEOblog notes: ผมอยากทำธุรกิจส่วนตัวแต่ครอบครัวผมประสบวิกฤติทางการเงินทำให้ผมกลับมาเริ่มนับหนึ่งใหม่ ลงเรียนเทียบวุฒิกับ กศน. ใช้วุฒิ ม.6 สมัครเป็นพนักงานเรียงของ ต้นทุนชีวิตต่ำมากแต่มีเป้าหมายว่าอยากทำอะไรก็ลงมือลุยแล้วไต้เต้าขึ้นมา ภายในสามปีได้เป็นผู้ช่วย CEO ธุรกิจค้าปลีกโดยที่ยังไม่จบปริญญาตรี เมื่อเป้าหมายชัด ความมุ่งมั่นจัดเต็ม จักรวาลจะจัดสรรโอกาสมาให้ครับ

7. เข้าหาคนรวย

แทบทุกคนที่เติบโตจากครอบครัวระดับกลางที่อยู่ในครอบครัวผู้ปกครองเป็นคน เจนเอ็กซ์ และ เบบี้บูมเมอร์ (ผมก็เช่นกัน) จะถูกปลูกฝังหลักคิดแบบอนุรักษ์นิยม ได้แก่ เรียนจบ หางานมั่นคง และทำไปจนเกษียณ อย่าไปเสี่ยงทำธุรกิจส่วนตัวมันอันตราย ฯลฯ

Grant Cardone เล็งเห็นว่ากรอบแนวคิดเหล่านี้ทำให้เราไม่สามารถทะลุขีดจำกัดของตัวเองไป ในขณะที่นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงเป็นคนธรรมดาเหมือนเรา แต่เขาทะลุกรอบความคิดพวกนี้ไปแล้วจึงทำให้ร่ำรวย และทางเดียวที่คุณจะก้าวข้ามกรอบความคิดเดิม ๆ คือ พาตัวเองไปอยู่ในสังคมใหม่ เรียนรู้จากคนรวย และทำงานอย่างคนรวย แม้หลายคนไม่กล้าเข้าหาคนเหล่านี้ จริง ๆ คนรวยและคนสำเร็จเป็นคนใจกว้าง ใจดี และชอบการแบ่งปันความรู้ครับ

CEOblog notes: นักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จอาจดูเข้าถึงยาก นั่นเพราะเวลาเขามีจำกัด หากอยากใกล้ชิด เตรียมตัวให้พร้อม ชัดเจนในตัวเอง ตั้งคำถามอย่างชาญฉลาด ยกตัวอย่าง คำถามเช่น ‘อยากรวยทำยังไงคะ’ ‘อยากเป็นเหมือนพี่ทำอย่างไรครับ’ คำถามพวกนี้เขาไม่ตอบนะ คุณต้องชัดและคมกว่านั้น คุณเป็นใคร ทำอะไร อยู่จุดไหน ปัญหาคืออะไร – นักธุรกิจเก่ง ๆ จะฟังและตอบคำถามสั้น ๆ แต่ตอบคมกระตุกหัวคิดได้ดีเลย

8. เล็ง 100 ล้าน อย่าเล็ง 1 ล้าน

Grant Cardone บอกว่าการตั้งเป้าต่ำเป็นความผิดพลาดทางการเงินของเขา เมื่อตั้งเป้าต่ำ ผลลัพธ์ที่ได้ก็ต่ำตาม ฉะนั้นตั้งสูงไว้ก่อนแล้วหาวิธีทำให้ได้ โลกนี้มีเงินเหลือเฝือสำหรับทุกคน ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้ร้อยล้าน อย่างน้อยไปไม่ถึงดวงจันทร์ก็ยังลอยอยู่ท่ามกลางดวงดาว!

CEOblog notes: เวลาที่ตั้งเป้ายอดขาย 100 หน่วยเราอาจจะขายได้ 50 หรือ 80 หน่วย ดังนั้นหากเราตั้งเป้าต่ำกะเอาที่สบายใจเรามักจบด้วยการทำได้ต่ำกว่าเป้าหมายขั้นต่ำลงไปอีก! ดังนั้นตั้งเป้าเผื่อสูงไว้ก่อนครับ

9. ให้เงินทำงาน

ไม่มีใครรวยจากการขายแรงและเวลาแลกเงิน เพราะคุณมีร่างเดียวกับเวลา 24 ชั่วโมง คนรวยสร้างระบบทำงานแทนทั้งสิ้น! เมื่อระบบแรกเริ่มทำงานแล้วเขาจะนำเวลาว่างที่ได้มาไปสร้างระบบตัวที่สอง ที่สาม และต่อไปเรื่อย ๆ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมคนรวยยิ่งรวยยิ่ง ๆ ขึ้นไปอีก

เพราะหนึ่งชีวิตมีข้อจำกัดด้านร่างกายและเวลา จงสร้างระบบที่อยู่เหนือข้อจำกัดนั้นมาทำงานทำเงินแทนคุณครับ


และหากคุณชอบใน Content ที่ทาง CEO Blog ได้นำเสนอ ในเร็ว ๆ นี้ ทาง CEO Blog ของเรานั้น กำลังจะมีโปรเจค CEO Premium Content ซึ่งเป็น Content ด้านการค้าปลีกออนไลน์ แบบพรีเมี่ยม ที่หาอ่านไม่ได้บน Blog ปกติของ CEO Blog โดยจะเปิดรับสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมในเร็ว ๆ นี้

หากคุณไม่อยากพลาด Content ระดับ Premium สามารถลงทะเบียนเพื่อรับแจ้งข่าวสารได้ที่นี่ก่อนใครเลยครับ รับรองได้เลยว่ามันเป็น Content ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่คุ้มสุด ๆ อย่างแน่นอน >>> ลงทะเบียนรับข่าวสารที่นี่ก่อนใครceo premium content