จากร้อยสู่ล้าน เส้นทางธุรกิจเครื่องสำอางปันสวย

sssss - Copy

วันนี้เทรนด์ธุรกิจแนว Tech startup กำลังมาแรง แต่ท่ามกลางการเติบโตของผู้สนใจทำ Startup ยังมีคนอีกมากที่ฝันอยากทำธุรกิจส่วนตัวแบบไทยๆ สไตล์เถ้าแก่ใหม่เก็บเล็กผสมน้อยกันไป ซึ่งผมมีโอกาสได้รู้จักกับเจ้าของธุรกิจเครื่องสำอางชื่อ บริษัท ปันสวย มองเผินๆ อาจรู้สึกเหมือนกับธุรกิจเครื่องสำอางทั่วไป แต่เมื่อได้รู้จักแล้วต้องทึ่งใน Story ที่มาสู่วันนี้

ปันสวย เป็นตัวอย่างของธุรกิจไทยแท้ๆ และเป็นสายคนสู้ชีวิต เริ่มต้นจากติดลบ ทำงานประจำไปด้วย สร้างธุรกิจแบบลองผิดลองถูกไปด้วย ประสบปัญหาและอุปสรรคซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนสำเร็จ เรียกว่าฟังไปขนลุกไปว่าถ้าเป็นผมจะอึดได้เพียงนี้ไหม!

1. Introduction แนะนำตัว ชื่อ อาชีพปัจจุบัน

พี่ฝน ปันสวย คะ ชื่อจริง ฉัตรรัตน์ พุฒิวีระพงศ์ ปัจจุบันเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัท ปันสวย จำกัด ซึ่งรับผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องสำอาง สมุนไพร มีคอร์สอบรมสำหรับคนที่ต้องการ ทำธุรกิจเครื่องสำอาง เร็ว ๆ นี้เพิ่งควักเงินลงทุน โรงงานน้ำดื่ม ปันรัก เป็นธุรกิจสร้างรายได้ให้กับชุมชน ที่บ้านเกิด บ้านท่าแพ จ.นครศรีธรรมราช

2. ชีวิตก่อนมาทำอาชีพปัจจุบัน

บ้านเกิดอยู่ จ.นครศรีธรรมราช ขึ้นมาเรียน กรุงเทพ ตั้งแต่ ช่วง ปวช ปวส และ ปริญญาตรีคะ ระหว่างเรียนต้องทำงานแทบทุกอย่างเพื่อนำเงินมาส่งตัวเองเรียน เงินเดือน เดือนละ 4-5 พัน ค่าเช่าหอพักแชร์กับเพื่อนเดือนละ 500 เงินที่เหลือก็ระเบียดกระเสียดใช้จ่าย

ด้วยความที่เป็นที่คิดว่าจะทำอย่างไรให้อยู่รอดในกรุงเทพ และมีชีวิตที่ดีขึ้นก็พยายามหาโน่นนี่นั่นมาทำตลอดคะ เงินไม่มีก็ใช้วิธีรูดบัตรเครดิต พอรูดมากเข้าบัตรก็เต็มวงเงิน ทำกิจการไม่ว่าอะไร เจ๊งหมดคะ ตั้งแต่ขายของตลาดนัด ทำสลัดขาย นำขนมมาขาย ชุดชั้นใน น้ำผลไม้ปั่น กล้วยปิ้ง ฯ ไม่มีอะไรที่ทำเงินสร้างฐานะได้เลย

บัตรเต็มวงเงิน จึงต้องกู้นอกระบบมาจ่ายหนี้บัตร เชื่อไหมคะ การกู้นอกระบบนี่เขายึดบัตร ATM พร้อมกับนำรหัสเราไปกดเลยนะคะ ถึงงวดเขาก็กดออกไป เงินส่วนที่พอเหลือ ซึ่งไม่ถึงพันต้องอยู่ให้ได้ในแต่ละเดือน ชีวิตมันแสนจะเจ็บปวดคะ และต้องดิ้นรนเป็นอย่างมาก

3. งานเจ๊ง เงินช็อต ท้อบ้างไหม?

บ่อยคะ ท้อ เหนื่อย หน่าย แต่สุดท้ายก็บอกตัวเองว่าต้องสู้ ล้มก็เอาใหม่ ล้มใหม่ก็สู้ใหม่ เป็นอย่างนี้มาตลอด

ระหว่างที่ทำงาน เรียน และทำงานพิเศษ ก็มักจะมีเพื่อน ๆ มาชวนทำ MLM เพราะเห็นว่าเราเป็นคนขยัน ใจจริงพี่ฝนไม่ได้ชอบนะคะ ปิดใจมาก แต่เมื่อพูดถึงรายได้ก็ลองเข้าไปทำดู เรียนรู้ดู สุดท้ายอยู่เป็นปี ๆ ก็ไม่ไปถึงไหน เลิก…เลิกจากบริษัทโน้น ก็มีเพื่อนมาชวนทำบริษัทนี้ เป็นอยู่หลายรอบคะ

มีอยู่ครั้งหนึ่งขณะที่พี่ฝนยังทำงานเป็น Call Center ที่บริษัทด้านโทรคมนาคมเบอร์ 1 ในขณะนั้น ก็ทำ MLM อยู่ของบริษัทหนึ่งคะ เขาขายเครื่องสำอาง ก็ทำขณะ และเช่นเดิมคะ คือไปหาใครเขาก็เบือนหน้าหนี แต่ที่บริษัทนี้เป็นเหมือนกุญแจสำคัญให้พี่ฝนได้ก้าวเข้ามาทำธุรกิจเครื่องสำอางออนไลน์

3. จุดเปลี่ยนหรือ Tipping point ให้หันมาสู่อาชีพปัจจุบัน

“ฝน เธอมียี่ห้อนี้ขายไหม ถ้ามีฉันซื้อ”

เป็นคำพูดของเพื่อนพี่ฝน ในคืนหนึ่งที่พี่ฝนไปหาพยายามที่จะขายเครื่องสำอางของบริษัท MLM ที่ทำอยู่ พูดจนเหนื่อยเพื่อนก็ไม่ซื้อ แต่ดันถามหาเครื่องสำอางอีกยี่ห้อ! ตอนนั้นพี่ฝนแทบจะไม่มีทางออกอะไรมากมายนักในการที่จะหารายได้เพิ่ม ให้พอกับค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น จึงตัดสินใจว่า เอาวะ! เป็นไงเป็นกัน ในเมื่อเพื่อนต้องการครีมอีกยี่ห้อ เราก็ลองค้นหาดูคะ

พี่ฝนก็เขาไปค้นหาในอินเตอร์เน็ต จาก Google คะ พี่ฝนสารภาพก่อนนะคะว่าพี่ฝนไม่มีความรู้เรื่องอินเตอร์เน็ตเลย เพราะงานที่ทำมาแต่ละตำแหน่งนั่งอยู่หน้าคอมฯก็จริงแต่ ก็ไม่ได้มีโอกาสท่องอินเตอร์เน็ต เสร็จจากงานก็เหนื่อย นอน จึงเป็นเรื่องที่ยากมาก ๆ ในการเริ่มเลยทีเดียว

ไม่รู้ ไม่ใช่ปัญหา แต่ปากท้องไม่มีกินมันจะเป็นปัญหา คิดได้ก็ลงมือทำ ค้นหาครีมที่เพื่อนต้องการ มีอยู่หลายร้านที่ขาย พี่ฝน ตระเวนโทรหาแต่ละร้านเลยคะ สอบถามราคา เงื่อนไขการสั่งซื้อ การดูว่าสินค้าตัวไหนเป็นค้าจริง สินค้าปลอม และแล้วธุรกิจขายเครื่องสำอางออนไลน์ ลงทุนหลักร้อยต้น ๆ ในวันนั้นก็เริ่มขึ้น เมื่อพี่ฝนสั่งซื้อครีมมา 3 กระปุกเพื่อมาขายต่อให้เพื่อนได้กำไรไม่กี่สิบบาท เสียเวลาค้นหาไปหลายวันเหมือนกัน

เมื่อขายได้ก็ดีใจคะ เพราะว่าเมื่อขายครีมทั้ง 3 กระปุกให้เพื่อน ๆ ได้แล้วปรากฏว่า เพื่อน ๆ ในแผนก Call Center ก็ต่างสอบถามครีมดังกล่าว และสั่งซื้อมากับพี่ฝน จากที่เคยสั่งซื้อ 3 กระปุกในอินเตอร์เน็ตก็สั่งจำนวนเป็นโหล

4. จากนั้นขยายธุรกิจอย่างไร

จากกำไรหลักสิบ ก็ขยับมาหลักร้อย หลักพัน บอกได้เลยคะว่าดีใจมาก เพราะทำธุรกิจมาแต่ละอย่างกว่าจะได้เงินสักบาท เลือดตาแทบกระเด็น ทั้งยก ทั้งแบกสินค้า ไปตลาดนัด ตระเวนขายตามใต้ตึก ไปบ้านเพื่อน เหนื่อย มากๆ แต่นี่แค่ ค้นหาร้านค้าบนอินเตอร์เน็ต โทรคุย สั่งซื้อ โอนเงิน แล้วนำสินค้าไปส่งให้ลูกค้า ซึ่งขายได้แน่นอน ชีวิตมันเริ่มมีความหวัง

ตอนยังไม่มีเว็บไซต์คะ อาศัยโพสต์ขายตามเว็บบอร์ด พอเห็นว่าขายได้ จึงคุยกับแฟนว่าจะต้องทำเว็บไซต์ ซึ่งแฟนก็พอมีความรู้อยู่บ้าง แต่กลางวันเขาทำงานจึงใช้วิธีว่าพี่ฝนมั่ว ๆ ไปก่อนตอนเย็นแฟนกลับมาก็ช่วยเก็บงานให้ —อะไรที่ไม่รู้ พี่ฝนทำอยู่ 2 อย่าง

1 ลงมือทำไปก่อนเลยเจอปัญหาแล้วก็ค่อยแก้เอา และ
2 ศึกษาหาความรู้ ถามผู้รู้

ทำอยู่อย่างนี้ตั้งแต่ไม่รู้จนพอมีความรู้ ตั้งแต่กำไรหลักร้อยสู่ยอดขายหลักแสนในไม่กี่เดือนและก็เป็นอยู่อย่างนี้อยู่เป็นปี ๆ คะ จากแค่เคยรับครีมมายี่ห้อเดียวเริ่มมีครีมนำเข้าอีกหลายยี่ห้อที่เริ่มนำเข้ามาให้พี่ฝนช่วยทำตลาด เราก็ยินดีนะคะ

5. พอขายดีก็โดนคู่แข่งเข้ามาขายตัดราคา?

แต่แล้ววิกฤตก็วิ่งเข้ามาหาพี่ฝนอีกครั้ง เมื่อสินค้าต่าง ๆ ที่เราทำตลาดให้เริ่มมีคู่แข่ง เริ่มมีการตัดราคากัน จากกำไรงาม ๆ คู่ละหลายสิบบาท กลายเป็นเหลือไม่กี่บาท จนบางครั้งพี่ฝนต้องขายแบบขาดทุนเพื่อต้องการรักษาลูกค้า

ในใจคิดตอนนั้น! จะแก้ไขปัญหานี้อย่างไรดี ประกอบกับได้แฟนคอยช่วยเหลือให้คำปรึกษาว่าเราควรจะเริ่มทำแบรนด์ตัวเอง

โชคร้ายไม่ได้เล่นงานเราตลอดไป หากเราไม่คิดจะเป็นทาสของมัน และโชคดีจะเข้าข้างเราเมื่อเราเดินไปหาโอกาส พี่ฝนโชคดีที่เดินไปคุยกับโรงงาน บอกความต้องการ และบอกข้อจำกัดเรื่องเงินทุน นับว่านี่เป็นอีกครั้งที่เจ้าของโรงงานเอ็นดูพี่ฝน ช่วยเหลือเรื่องการทำแบรนด์เครื่องสำอาง เป็นของตัวเอง

6. แชร์ประสบการณ์การเริ่มต้น ไอเดียสินค้า เงินทุน อุปสรรค และก้าวสู่ผลลัพธ์

เริ่มทำแบรนด์เครื่องสำอางจำได้ว่าประมาณปี 2550 ตอนนั้นคุยกับโรงงานว่าเราต้องการสินค้าแบบไหน ประกอบกับช่วงนั้นครีมเกี่ยวกับโสม-สาหร่าย กำลังเป็นกระแส พี่ฝนเลยให้เขาทำครีมนี้โหนกระแสไปด้วยเลย และเริ่มจดเว็บไซต์เป็นแบรนด์ตัวเองชื่อ www.soamsarai.com เป็นเว็บสำเร็จรูปที่คนไม่มีความรู้ด้านคอมพิวเตอร์อย่างพี่ฝนก็ทำเองได้

ค่าโดเมน และ host ต่อไปไม่กี่พันบาท พี่ฝนว่ามันคุ้มสุดๆ แบรนด์โสมสาหร่ายก็เกิดมาตั้งแต่ตอนนั้นคะ ขายได้ ขายดี มาเรื่อย จากครีมเซตเดียวก็เริ่มมีสินค้าเพิ่มหลายรายการ แต่ใช่ว่าทุกตัวจะขายดีนะคะ ที่ต้องมีก็เพราะเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ทั่วถึง แต่จะไม่ได้ทำให้เกิดรายได้มาก แต่เป็นการรักษาลูกค้า

ทำอยู่อย่างนี้ประมาณ 3 ปีจากแค่ขายออนไลน์พี่ฝนก็เริ่มที่จะเปิดหน้าร้าน โชคดีได้ร้านที่ตะวันนาบางกะปิ อยู่โซนด้านหน้าเลย มีทั้งหน้าร้านออนไลน์และออฟไลน์ ลูกค้าก็มั่นใจมากยิ่งขึ้นคะ

7. พอกำลังจะรุ่งก็เจอวิกฤตน้ำท่วมถล่ม?

ปี 2554 คลื่นวิกฤตลูกใหม่ก็วิ่งเข้ามาหาพี่ฝนอีกระลอก เมื่อเจอพิษน้ำท่วมโรงงานที่ผลิตโดนน้ำท่วมด้วย ต้องพากันหนีกลับไปอยู่ที่ต่างจังหวัดด้วยภาระหนี้ต่อเดือนกว่า 2 แสนบาท

เมื่อเข้าตาจน เราจะได้รับพลังใหม่จากจักรวาล พี่ฝนไม่ยอมจำนนต่อน้ำท่วมแน่นอน นั่งคุยกันกับแฟนว่าจะทำอย่างไรกันดี “เราต้องหาโรงงานเพิ่ม และ จัดระบบตัวแทนใหม่” นี่คือแนวทางแก้ปัญหาที่เราเห็นร่วมกัน

คิด และ ลงมือทำทันทีคะ เพียงไม่กี่สัปดาห์เราก็ได้โรงงานใหม่ ได้ครีมสูตรใหม่ ส่งมาให้ถึงหน้าบ้านที่ต่างจังหวัด และเราก็ไม่ยอมให้การลงทุนใหม่ครั้งนี้กองอยู่แค่หน้าบ้าน เราเริ่มตระเวน นำเครื่องสำอางไปขาย แทบทุกจังหวัดในภาคใต้ คำไหนนอนนั่น เข้าไป 100 ร้านได้รับการตอบรับเพียง 1-2 ร้าน ก็ยังดีกว่าไม่เข้าไปสักร้านเลย เพราะเราจะไม่ได้อะไรเลย

เริ่มใช้ระบบตัวแทน และการขายผ่านโซเชียล

ขณะเดียวกันแฟนที่เพิ่งออกมาจากงานก็ช่วยลุยตลาดออนไลน์อย่างจริงจัง ประกอบกับช่วงนั้น Facebook เพิ่งเข้ามาในตลาดเมืองไทย ทำให้เราวางระบบตัวแทนใหม่ เป็นตัวแทนแบบออนไลน์ แยกเป็นรายภาค รายจังหวัด มีตัวแทนทั้งแบบสต๊อกสินค้าและไม่สต๊อกสินค้า รียกได้ว่าหลังน้ำลด เรากลับขึ้นมากรุงเทพฯ ขายกันสนุกมากคะ ต้องแพ็คสินค้าส่งลูกค้ากันในแต่ละวันแทบไม่ได้กินไม่ได้นอนคะ ออเดอร์แต่ละวันต้องแพ็คใส่กล่องไปรษณีกันจนตี 1 ตี 2 ทุกคืน

เริ่มฟื้นตัวและไปต่ออีกครั้ง

zcretกลางปี 55 เราจึงมีการขายธุรกิจ จากที่ทำกันเพียง 2 คนสามี-ภรรยา ก็รับน้องชาย และ ภรรยาเข้ามาช่วยงาน รับน้าสาวและสามีมาช่วยดูแลลูก พี่ฝน มองว่าตลาดนี้เราต้องโตไปมากกว่านี้ให้ได้ และที่สำคัญคือ เราต้องโตอย่างมั่นคง ไม่ใช่เติบโตแบบฉาบฉวย จึงวางระบบสินค้าของร้านต้องไม่เป็นสินค้าที่โหนกระแส แต่เป็นสินค้าที่จะต้อง “มีแบรนด์” เพื่อเป็นเหมือนต้นไม้ใหญ่ให้เราเก็บกินผลได้นาน ๆ จึงตัดสินใจ เปิดบริษัท ขึ้นมาชื่อว่า บริษัท ปันสวย และ จดโดนเมนชื่อร้านเป็น punsuay.com เพิ่มมาจนทุกวันนี้

เมื่อมองย้อนกลับไป เราต่อสู่มาถึงวันนี้ได้จริงๆ ด้วยเหตุผลของความไม่มี..

“พี่ฝนไม่มีเงินทุน”
“พี่ฝนไม่มีความรู้”
“พี่ฝนไม่มีเครือข่าย เส้นสาย”

และสิ่งเดียวที่พี่ฝนมีคือ “เราไม่เคยยอมแพ้ หรือ ยอมรับข้อด้อยของตัวเอง” บวกกับ “ความฝัน และ ความหวังว่า สักวันชีวิตเราต้องดีขึ้น

8. ธุรกิจในปัจจุบัน สินค้า หน้าร้าน ช่องทางจำหน่าย

11806732_10207403535836669_1530134275_o

แบ่งเป็น 3 ส่วนนะคะ สำหรับเรื่องธุรกิจที่อยู่ภายใต้การบริหารจัดการจาก บริษัท ปันสวย คือ

1.ธุรกิจหลัก

ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องสำอาง เป็นเส้นเลือดใหญ่ของธุรกิจ มีสินค้าเครื่องสำอางดูแลผิวหน้า ผิวกาย และดูแลปัญหาภายใน ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย มีสินค้าที่เป็นแบรนด์ของบริษัทเองไม่ว่าจะเป็น Zcret Miracle, Zcret4men, Zcret Lighthing, Zcret Burn ฯลฯและยังมีสินค้าที่ผลิตเป็นแบรนด์ให้กับลูกค้าที่มีความสนใจในตลาดนี้แต่มีเงินทุนไม่มากนัก (แต่ต้องมีเงินทุนบ้าง) ซึ่งปัจจุบันก็ทำแบรนด์ไปให้แล้วกว่า 500 แบรนด์คะ ช่องทางจำหน่ายผ่านทางออนไลน์กว่า 90% ผ่านเว็บไซต์ www.punsuay.com และ www.soamsarai.com ตัวแทนจัดจำหน่ายเกือบทั่วประเทศ

2.ธุรกิจเสริม

ธุรกิจที่ช่วยผลักดันแบรนด์ของบริษัท และ เป็นการส่งเสริมความรู้ให้กับตัวแทน และผู้ที่สนใจเข้ามาทำธุรกิจเครื่องสำอาง โดยบริษัทมีการจัดทำหนังสือ Pocket book เกี่ยวกับการเริ่มต้นทำธุรกิจเครื่องสำอางออนไลน์ ชื่อ “เปลี่ยนร้อยให้เป็นล้าน ขายเครื่องสำอางออนไลน์” ซึ่งแฟนพี่ฝน คุณ เกียรติรัตน์ จินดามณี เป็นผู้เขียน เร็ว ๆ นี้ก็จะได้เห็นหนังสืออีกเล่มที่จะเป็นงานเขียนของพี่ฝนเองคะ โดยได้รับการช่วยปรับแต่ง ขัดเกลาเนื้อหาจาก พี่เกียรติ เรามีการจัดสัมมนา เพื่อสร้างเครือข่ายคนทำธุรกิจ เพื่อช่วยกันยกระดับองค์ความรู้ให้กับคนทำธุรกิจ ยกระดับความรู้ให้กับผู้บริโภค ชื่อสัมมนา “เปลี่ยนร้อยให้เป็นล้าน ขายเครื่องสำอางออนไลน์” ปัจจุบัน จัดมาแล้ว 3 ครั้ง และมีแผนที่จะจัด 3-4 เดือนต่อครั้ง

3.ธุรกิจเพื่อครอบครัว ตอบแทนสังคม

พี่ฝนเปิดโรงงานน้ำดื่ม ชื่อ น้ำดื่มปันรัก ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช บ้านเกิด เพื่อช่วยสร้างอาชีพเล็ก ๆ ให้กับญาติพี่น้องในหมู่บ้าน แม้จะไม่ได้มีกำไรอะไรมากมายนักเมื่อเทียบกับการทำธุรกิจเครื่องสำอางและความงาม แต่เงินทองที่ได้มาดังกล่าวจากธุรกิจเครื่องสำอาง ก็เทียบอะไรไม่ได้เลยเช่นกันกับการที่ได้มีโอกาสตอบแทนผู้มีพระคุณ พ่อแม่ ญาติพี่น้อง ตอบแทนแผ่นดินที่เกิด ตอบแทนข้าวปลาอาหารที่ญาติพี่น้องเคยจุลเจือ พี่ฝนตั้งใจทำที่นี่ให้เป็น “เสาหลัก” ในการสร้างธุรกิจให้กับชุมชน หมู่บ้าน “น้ำดื่มปันรัก” เป็นแค่สินค้าตัวแรกที่จะขับเคลื่อนสินค้าตัวต่อ ๆ ไปที่ใช้วัตถุดิบ แรงงานจากชุมชน และพี่ฝนจะช่วยเหลือเรื่องช่องทางการตลาดและจัดจำหน่าย สินค้าทุกอย่างที่ออกจากที่นี่จะอยู่ภายใต้แบรนด์ “ปันรัก” (www.punrak.com) แม้จะเหนื่อยเพิ่มขึ้น แต่พี่ฝนก็ยินดีที่จะทำเพราะ หากไม่มีที่นี่พี่ฝนก็คงมาไม่ถึงวันนี้ หากไม่กลับมาตอบแทนบ้านเกิด เราก็จะกลายเป็นคนอกตัญญู

9. ข้อคิดสู่ผู้ต้องการทำอาชีพ/ธุรกิจ นี้

สำหรับน้อง ๆ ที่จะทำธุรกิจเครื่องสำอางออนไลน์นะคะ พี่ฝนเจอคำถามต่อไปนี้เยอะมาก ๆ คะ

1.ใช้เงินทุนเท่าไหร่
2.จะทำการตลาดอย่างไร
3.ไม่เคยขายจะทำได้ไหม

ซึ่งถือว่าเป็นคำถามพื้นฐานในการทำธุรกิจเลยคะ แต่พี่ฝนก็มักจะมีคำถามกลับไปยังน้อง ๆ นะคะว่า

1.ทำไมสนใจธุรกิจนี้ เห็นเพื่อน ๆ ทำแล้วรวยใช่ไหม
2.ถ้าต้องเสียเงินสักก้อน ที่คิดว่าไม่ได้คืนแล้วชีวิตไม่เดือดร้อน จะเสียเงินได้เท่าไหร่
3.น้องเอาจริงหรือเปล่าคะ หรือแค่อยากเฉย ๆ

ลองสำรวจตัวเองจาก 3 คำถามพี่ฝนถามดูนะคะ ถ้าตอบได้ และมั่นใจก็ลงมือทำได้เลย ไม่ต้องกังวลปัญหาอะไรเลย เพราะเราต้องเจอปัญหาอยู่แล้ว เจอก็แก้กันไป ที่สำคัญคือ เราต้องทำมันให้สุด จะมาแหย่ ๆ ขาลองทำดู พี่ฝนบอกได้เลยคะว่าเสียเวลา เสียกำลังใจ เพราะทำอย่างนี้เจ๊ง ขาดทุนอย่างแน่นอน แต่ไม่ใช่ว่าทำให้สุดแล้วไม่เจ๊งนะคะ แต่เราจะไม่กลับมานั่งเสียดายว่าทำไมเราไม่ได้ทำให้เต็มที่

โอกาสเป็นของคนที่ลุย

สุด ๆ ไปเลยคะ เต็มที่ไปเลยคะ แล้วผลลัพธ์มันจะให้เราสุด ๆ เช่นกัน พี่ฝนบอกเลยนะคะ มาถึงวันนี้ได้ไม่ใช่ว่าพี่ฝนเก่ง ไม่ใช่ว่าพี่ฝนสวย ไม่ใช่ว่าพี่ฝนโชคดี ไม่ใช่ว่าอะไรที่น้องคิดแบบโลกสวย เลยคะ

ทุกอย่างที่ได้มาพี่ฝนต้องแลกด้วยอะไรหลายต่อหลายอย่าง คนอื่นอาจทำแค่ 1-2 ครั้งเพื่อให้สำเร็จผล แต่สำหรับพี่ฝนพยายามมากกว่าเป็น 10 เท่ากว่าจะสำเร็จ วันนี้พี่ฝนขอแค่ หากเราจะเริ่มทำอะไรสักอย่าง “อย่าท้อให้อุปสรรคเห็น” เพราะ ทันทีที่เราท้อ ต่อหน้าอุปสรรค ต่อหน้าปัญหาที่ขวางเราอยู่ เท่ากับเรายอมแพ้ไปเสีย

เป้าหมายมีไว้พุ่งชน อุปสรรคก็เช่นกัน

ขอให้เรา “สู้กับทุกอุปสรรค” ยืนท้าทายกับ ปัญหา เหล่านั้นเลย ตะโกนออกไปเลยคะ เข้ามาอีก ปัญหา เข้ามาอีก เดินเรียงหน้ากระดานเข้ามาเลย ชนะปัญหา 1 ได้เราก็สำเร็จไป 1 อย่าง ชีวิตมันก็แค่นี้เอง ทุกครั้งที่เราเอาชนะปัญหาได้ เราจะได้รับรางวัลตอบแทนที่คุ้มค่าเสมอคะ เช่นกันทุกครั้งที่เรายอมแพ้ เราก็ได้รับการเหยียบย่ำที่หนักหน่วงเช่นกัน และคนที่ซ้ำเติมเราได้มากที่สุดในการล้มเหลว ก็คือ “ตัวเราเอง” —พี่ฝนเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะคะ ชีวิตไม่สิ้นก็ดิ้น ก็สู้ กันต่อไปคะ

ขอขอบคุณ คุณพอล The CEO Blogger ที่ให้โอกาสคนตัวเล็ก ๆ อย่างพี่ฝน ได้มีโอกาสมาแบ่งปันบอกเล่าเรื่องราวการทำธุรกิจฉบับแม่ค้าตลาดนัด สู่นักธุรกิจเครื่องสำอางออนไลน์ นะคะ หวังว่า เพื่อน ๆ คงพอจะได้แนวคิดวิธีการในการเริ่มต้นธุรกิจนะคะ หากวันไหนที่รู้สึกท้อ ขอให้รู้ว่าพี่ฝน ยังช่วยเชียร์อยู่ห่าง ๆ จ้า

11800912_10207403540556787_133075828_o