ก่อนอื่นผมขอเปิดประเด็นใกล้ตัวว่าด้วย วิธีคิดของมนุษย์เงินเดือนชาวไทยในการเข้ามาจับ Internet Marketing กล่าวคือเพื่อจะหวังปั้นเม็ดเงินก้อนใหญ่ในระยะเวลาอันสั้นเพื่อหอบหิ้วเงินนั้นออกไปเป็นทุนเปิดธุรกิจแบบ Brick& Mortar วิธีคิดนี้ไม่ได้ผิดแต่ผมกำลังมองว่าคุณกำลังหนีจากวิถีแห่ง Cubicle nation (คำเปรียบเปรยความเป็นอาณาจักรกรอบสี่เหลี่ยมของสถานประกอบและสำนักงานการในอเมริกา) ในฐานะลูกจ้าง เพื่อจะกลับไปยัง Cubicle nation ในฐานะนายจ้าง! เพื่อ?!
ที่เป็นเช่นนี้เพราะ 1) เราอาจมีค่านิยมในการมีกิจการแบบ Brick& mortar เพราะคิดว่ามันมีความเสี่ยงต่ำกว่า 2) เราอาจคิดว่า Internet marketing เป็นอาชีพที่ไม่มีตัวตนและไม่มีความมั่นคงจึงมีความเสี่ยงสูงกว่า ความคิดนี้อาจเพราะหลายคนยังไม่ได้เรียนรู้วิธีคิดของอาชีพ Internet marketing ในแบบที่เป็นธุรกิจจริงๆ และที่เป็นเชิงคุณภาพ ต่างจากคนอเมริกันที่เมื่อพวกเขาออกจาก Cubicle nation ไปได้พ้นเด็ดขาดแล้วเขาไม่กลับมาอีกเลย หลายคนแพ็กกระเป๋าบินออกนอกประเทศทำธุรกิจผ่านอินเตอร์เน็ตจากประเทศที่สามที่มีค่าครองชีพต่ำกว่า เช่น แอฟฟริกา เวียดนาม หรือแม้แต่ประเทศไทยของพวกเรา! โดยไม่คิดจะก่อร่างสร้างกิจการเป็นตัวเป็นตนมาผูกมัดตนเองไว้กับที่
วันนี้ผมจึงอยากพาทุกคนไปรู้จักกับ Blogger ชื่อดังที่ออกสื่อมากมายทั้งในฐานะผู้ถูกสัมภาษณ์และฐานะผู้ป้อนเนื้อหา อาทิ The New York Times, CNN, Life Hacker, BBC, Lonely Planet, Yahoo Finance, Huffington Post, TIME, National Geographic ฯลฯ (เห็นไหมครับ Blogger ก็ดังได้นะ) Matt Kapnes เจ้าของบล็อกแนว Travel Blogger ชื่อ www.nomadicmatt.com
Matt Kapnes, Travel Blogger ผู้เกษียณอายุตัวเองในวัย 25 ปี
หลายคนอาจจะคิดว่าเขาทำ Internet marketing มาตั้งแต่อายุเท่าไรและประสบความสำเร็จมากแค่ไหนจึงเกษียณอายุได้เร็วขนาดนั้น คำตอบคือเปล่าเลย เขาเป็นชนชั้นกลางไม่จนไม่รวยและไม่ได้มีรายได้เสริมมาแต่ก่อน เป็นพนักงานประจำทำงานเฉลี่ยสัปดาห์ละ 50 ชั่วโมง แต่เขาเบื่อและอึดอัดกับงานประจำตั้งแต่อายุ 23 ปี (ปี 2004) ชาวอเมริกันมีสิทธิ์พักร้อนปีละ 2 สัปดาห์ เขาเก็บเงินและไปเที่ยวข้ามทะเลแบบยิงยาว 2 สัปดาห์รวดเป็นครั้งแรกปีนั้นที่คอสตาริก้า หลังกลับมาเขาพบว่าชีวิตในกรอบสี่เหลี่ยมมันไม่ใช่ ชีวิตไม่ควรมาดักดานอยู่อย่างนี้ แต่เขาก็ยังไม่มีปัญญาจะหาทางออกให้ตัวเองนอกจากทำงานต่อไปจนกระทั่งปี 2005 เขามาเมืองไทยและพบกับกลุ่มนักท่องเที่ยวสไตล์ Backpacker ที่เชียงใหม่ พวกเขาคุยกันและพบว่ากลุ่ม Backpacker เหล่านั้นยังเป็นคนหนุ่มสาวแต่ลาออกจากงานประจำและท่องเที่ยวรอบโลกเป็นอาชีพหลักมาเป็นปีๆ โดยไม่กลับบ้าน!
Matt สนใจในวิถีชีวิตของ Backpacker กลุ่มนั้นจึงเริ่มพูดคุยกันและศึกษาแนวทางการใช้ชีวิตข้ามน้ำข้ามทะเลโดยไม่ทำงานประจำ หนึ่งในแนวทางการมีรายได้ช่วงท่องเที่ยวก็มาจากธุรกิจอินเตอร์เน็ตนั่นเองครับ
เมื่อกลับมายังอเมริกา เขาจึงตัดสินใจลาออกจากงานประจำ เขาใช้เวลาเตรียมตัว 6 เดือนเพื่อเคลียร์งาน ออมเงิน ศึกษาโครงการ และเรียนต่อ MBA ที่ค้างไว้ให้จบ และในกรกฎาคม ปี 2006 Matt ในวัย 25 ปีลาออกจากงานประจำและออกเดินทางท่องเที่ยวไปยังโลกกว้างรวดเดียว 18 เดือน!
ประเทศที่ Matt Kapnes เยี่ยมเยือนตลอด 7 ปี
Matt Kapnes ผ่านมาแล้วไม่น้อยกว่า 70 ประเทศ โดยบางปีเขาเดินทางมากถึง 20 ประเทศภายในปีเดียว! นอกจากนั้นเขายังเรียนรู้ภาษาอย่างง่ายๆในหลายๆภาษารวมไปถึงการพูดคุยด้วยประโยคง่ายๆในภาษาไทยอีกด้วย ประเทศหลักๆที่เชื่อว่าเขาเคยผ่านมาและใช้ชีวิตอยู่นานพอสมควรจนรู้วัฒนธรรมและการใช้ชีวิตในประเทศนั้นๆเป็นอย่างดีได้แก่:
- Argentina
- Aruba
- Australia
- Bahamas
- Belize
- Belgium
- Brazil
- Cambodia
- Canada
- Chile
- China
- Colombia
- Cook IslandsCosta Rica
- Curacao
- Denmark
- Ecuador
- El Salvador
- England
- Fiji
- France
- French Polynesia
- Guatemala
- Germany
- Greece
- Honduras
- Indonesia
- Ireland
- Italy
- Jamaica
- Japan
- Malaysia
- The Maldives
- Mexico
- New Zealand
- The Netherlands
- Nicaragua
- Norway
- PanamaPeru
- Portugal
- Romania
- Saint John’s
- Saint Lucia
- Scotland
- The Seychelles
- Singapore
- Spain
- Sweden
- Switzerland
- Thailand
- Ukraine
- United States
- Vanuatu
- Vietnam
เนื้อหาคุณภาพสูงใน Blog ของ Matt Kapnes
ภายใน Blog nomadicmatt.com เต็มไปด้วยเนื้อที่มีประโยชน์ (Useful) ต่อคนที่รักการท่องเที่ยว โดยมีทั้งบทความ Inspired เช่น Success story สำหรับคนที่กำลังลังเลใจว่าจะไปยังไง ไปแล้วจะเป็นยัง ไปแล้วไม่เวิร์คจะทำอย่างไร เป็นต้น และบทความ How-to สำหรับการประยุกต์ใช้ชีวิตในประเทศต่างๆ แล้วก็บทความแนว Life hack คือการใช้ชีวิตให้มีประสิทธิภาพ การดูแลสุขภาพ การเลือกใช้บริการประหยัด ฯลฯ นอกจากนั้นยังมีการทำ One-stop guide line การท่องเที่ยวแต่ละประเทศออกเป็นหมวดหมู่อย่างเป็นระบบระเบียบถึง 53 ประเทศที่กล่าวไว้ข้างบน สุดยอดมากๆ
แนวทางการทำเงินของ Matt Kapnes
Matt ไม่ใช่เศรษฐีมาก่อนและแม้แต่การเข้ามาจับอาชีพ Internet marketing ก็ไม่ได้ทำให้เขาเป็นเศรษฐีข้ามคืน แต่มันทำให้เขามีอาชีพและมีรายได้ตลอดการท่องเที่ยวที่นอกเหนือไปจากการใช้ชีวิตอย่างประหยัดตลอดการท่องเที่ยวทุกวิถีทางที่จะทำได้ไม่เว้นแม้แต่การเลือกวิธีการเบิกถอนเงินที่จะเสียค่าธรรมเนียมน้อยที่สุด!
Blog nomadicmatt.com ของเขาถูกสร้างขึ้นโดยเจตนารมณ์ที่จะส่งมอบเนื้อหาที่มีประโยชน์ต่อผู้ต้องการศึกษาการท่องเที่ยว ฉะนั้นลืมเรื่อง SEO และ Keyword research ไปได้เลย เขาเขียน contents ในสไตล์ของเขาเอง มีความเป็น Original และ Authority ค่อนข้างสูง มี Organic follower หรือผู้ติดตามมาจากสื่อต่างๆ เช่น จาก Back link ธรรมชาติ, จาก Guest post, จากบทสัมภาษณ์ และจากการบอกต่อ โดยไม่ได้พึ่ง Search traffic แต่เพียงอย่างเดียว
Matt เริ่มต้นทำ Blog ด้วย Passion ที่จะแบ่งปันแนวทางการท่องเที่ยวรอบโลกคุณภาพสูง ช่วงแรกจึงไม่ได้มีแนวทางรายได้อะไรมากมายและเงินสดที่นำไปท่องเที่ยวมาจากเงินออมและเงินที่ขายทรัพย์สินหนักต่างๆออกไปรวมถึงรถยนต์เพื่อนำไปเป็นทุนในการท่องเที่ยวในปีแรก ประสบการณ์ในปีแรกของเขาถูกใช้ไปกับเทคนิคการประหยัดเงินสารพัดวิธี เช่น การสมัครบัตรเครดิตที่มี Airline bonus, การใช้บัตรเครดิตกับร้านค้าที่สะสมแต้ม Frequent flier, การเลือกที่พัก, การเลือกวิธีฝากเงินออมที่ให้ดอกเบี้ยสูง และการเบิกถอนเงินสดที่เสียค่าธรรมเนียมต่ำ ฯลฯ
จนกระทั่งเว็บบล็อกของเขาได้รับความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ เขาจึงเริ่มได้รับการติดต่อจาก Private advertiser เพื่อขอลงโฆษณา และเขาก็ขยายฐานไปสู่การทำ Google AdSense และ Affiliate program ซึ่งตัวเด่นๆเห็นจะไม่พ้น
a. Travel affiliate
b. Credit card affiliate
c. Insurance affiliate
d. TEFL Course affiliate (ก็ยังมีนะจ้ะ อิๆ)
e. และ affiliate ตลอดกาลที่คนไทยคุ้นเคยกันดี Amazon affiliate เกี่ยวกับสินค้าสำหรับนักเดินทางเช่น กระเป๋า, หนังสือ, ซีดี/ดีวีดี
ดูความอลังกาลของหน้า Affiliate ที่ผสมผสานเนื้อหาคุณภาพสูงอย่างลงตัวของเขาได้ที่นี่ครับ นี่คือวิธีโปรโมทสินค้าอย่างมีคุณภาพไม่ต้องปั่นไม่ต้องสแปม เจ้าของแบรนด์ก็ชอบ คนอ่านก็ชอบ www.nomadicmatt.com/travel-resources
เมื่อความนิยมของ Blog nomadicmatt.com เพิ่มสูงขึ้น เขาเริ่มติดต่อไปยังหน่วยงานต่างๆเพื่อเสนอทำ Press Trips ซึ่งช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้มหาศาล!
สั้นๆ Press Trips คืออะไร?
Press Trips เป็นโครงการทีร่วมกันระหว่าง Destination Marketing Organizations (DMO’s), คณะกรรมการการท่องเที่ยว, และหน่วยงานเอกชน (ขนส่ง, โรงแรม, ร้านอาหาร, ร้านค้า ฯลฯ) จัดโครงการเที่ยวฟรีสำหรับ Travel Blogger เพื่อให้ Blogger เหล่านั้นนำประสบการณ์ไปแชร์ในบล็อกเป้าหมายเพื่อประเทศนั้นๆ หรือเมืองนั้นๆ ได้ประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวของตนออกไปสู่ชาวโลกผ่าน Blog ที่มี Authority สูงๆ ในขณะเดียวกันตัว Blogger เองก็ประหยัดค่าใช้จ่ายก้อนโตจากการได้รับเชิญไปทำ Press Trips
จุด Break Even ทางรายได้ของ Matt Kapnes
“ประสบการณ์การสร้างความรู้, ความรู้สร้าง Authority content, และ Authority content สร้าง Information product!”
Matt มี Information product ประจำบล็อกตนเอง 4 ไอเทมซึ่งเขาสร้างขึ้นเองจากประสบการณ์ในการท่องเที่ยวและทำ Blog สินค้าอยู่ในรูปแบบ e-book และ e-book ผสม video interview ได้แก่
a. Learn How to Easily Build your own Travel Blog ราคา $9.99 (www.nomadicmatt.com/travel-tips/build-your-own-travel-blog)
b. Turn Your Blog into a Money Generating Machine ราคา $27-$147 (www.nomadicmatt.com/travel-tips/make-money-with-your-travel-blog)
c. How to Start Teaching English Overseas ราคา $19 (www.nomadicmatt.com/travel-tips/teach-english-around-the-world)
d. How to Travel the World on $50 a Day ตัวนี้ขายใน Amazon.com ทั้ง Paper back และ Kindle E-book เป็นงานเขียนตัวใหม่ที่ออกมาเมื่อเดือน กุมภาพันธ์ 2013 โดยสามารถขายได้ 1,500 ชุดในสัปดาห์แรกและภายใน 2 เดือนเขาขายไปกว่า 5,000 ชุด (ไม่ได้ระบุสัดส่วน Paper back และ Kindle) ซึ่งคิดเป็นเงินน่าจะไม่น้อยกว่า 50,000 เหรียญ
รายได้โดยเฉลี่ยของ Matt Kapnes
ปัจจุบัน Matt ได้กลายเป็น Travel Blogger และ Internet Marketer เต็มตัวผู้มีความรู้ด้าน SEO และ Keyword research โดยปริยาย แม้จะไม่ได้เปิดเผยอย่างเป็นทางการว่าปัจจุบันเขามีทั้งหมดกี่เว็บ แต่เว็บที่สองของเขาชื่อ www.how-to-travel-the-world.com
Matt เปิดเผยรายได้ผ่านบทสัมภาษณ์ให้เว็บไซต์แห่งหนึ่งเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2009 ว่าเขามีรายได้จากทุกเว็บรวมกันประมาณ $7,000-$7,500 ต่อเดือนโดยเว็บ nomadicmatt.com เป็นหัวหอกหลักในการทำเงินโดยเว็บนี้เพียงเว็บเดียวก็สร้างรายได้ให้เขาถึง $3,000 เหรียญต่อเดือนในขณะนั้น ซึ่งแน่นอนว่ายังไม่รวมรายได้จาก Information product ที่เขามีออกมามากมายในปัจจุบันรวมไปถึงหนังสือเงินล้านที่เขาเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปี 2013, How to Travel the World on $50 a Day ผมจึงเดาว่าหากรวมกับ Product ใหม่ๆในปี 2013 รายได้เฉลี่ยของเขาน่าจะมากกว่า $9,000-$10,000 ต่อเดือน (ผมคิดบวกเพิ่มจากบทสัมภาษณ์ล่าสุดในปี 2012 “This Guy Makes $100K Annually…” โดย BusinessInsider.com)
คุณอยากเป็น Internet Marketer เพื่ออะไร?
สำหรับผม ผมอยากเป็น Internet marketer เพื่อที่จะมีอิสระในชีวิต ผมไม่ต้องการอยู่ในกรอบสี่เหลียมของสถานประกอบการทุกกรณี “ไม่ว่าจะในฐานะลูกจ้างหรือว่านายจ้าง” ผมอยากที่จะออกไปจากวงจรของสังคมเมือง ที่ต้องฝ่ารถติด แย่งกันกิน แย่งกันใช้ ฯลฯ ผมอยากออกไปค้นหาประสบการณ์ชีวิตและมีเวลาให้คนที่ผมรัก และในขณะเดียวกันก็ทำประโยชน์ให้สังคมจาก Content ที่ให้ความรู้จากประสบการณ์ทำงานของผม
ผมเห็นภาพไปในทางเดียวกับ Internet marketer และ Blogger ในต่างประเทศที่พวกเขาทำงานนี้เป็นอาชีพหลักได้อย่างมั่นคง เพียงแต่แนวทางและวิธีทำต้องมีโครงสร้างพื้นฐานที่สอดประสานประโยชน์ต่อผู้อื่นและมีคุณภาพมากพอ
สุดท้าย ผมมี Blog (ภาษาอังกฤษ) มาแนะนำสำหรับคนที่อยากเขียน Blog แนว Travel blogger ซึ่ง Blog นี้รับสมัครนักเขียนแนวท่องเที่ยวแม้คุณจะไม่ได้ท่องเที่ยวรอบโลกแต่คุณสามารถแบ่งปันเรื่องราวในพื้นที่ที่คุณอาศัยอยู่ที่จะสามารถ Inspired นักท่องเที่ยวจากต่างแดนให้สนใจในประเทศหรือจังหวัดของคุณได้ เว็บชื่อ: www.kissfromtheworld.com
และหากคุณชอบใน Content ที่ทาง CEO Blog ได้นำเสนอ ในเร็ว ๆ นี้ ทาง CEO Blog ของเรานั้น กำลังจะมีโปรเจค CEO Premium Content ซึ่งเป็น Content ด้านการค้าปลีกออนไลน์ แบบพรีเมี่ยม ที่หาอ่านไม่ได้บน Blog ปกติของ CEO Blog โดยจะเปิดรับสมัครสมาชิกพรีเมี่ยมในเร็ว ๆ นี้
หากคุณไม่อยากพลาด Content ระดับ Premium สามารถลงทะเบียนเพื่อรับแจ้งข่าวสารได้ที่นี่ก่อนใครเลยครับ รับรองได้เลยว่ามันเป็น Content ระดับพรีเมี่ยมในราคาที่คุ้มสุด ๆ อย่างแน่นอน >>> ลงทะเบียนรับข่าวสารที่นี่ก่อนใคร
