สั่นคลอน : แม่ทัพ Libra มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก อาจถอนตัวจากโครงการ Libra เช่นกัน


Libra โครงการ เงินดิจิทัลที่เป็น ทอล์คออฟเดอะทาวน์ แห่งปี ค.ศ. 2019 ความหวังที่จะสร้างปรากฏการณ์ใหม่แห่งโลกการเงิน ไปจนถึงโอกาสดิสรัปต์โลกการเงินทั้งระบบในความเห็นของ กูรูการเงินบางคน โครงการนี้มีหัวเรือใหญ่ คือ มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก เจ้าของ เฟสบุค ประกาศโครงการและชักชวนบริษัทยักษ์ใหญ่มาเป็นพาร์ทเนอร์เมื่อเดือน มิถุนายน 2019 ที่ผ่านมา

แต่แล้ว Libra ก็ประสบเหตุสั่นคลอนภายในอย่างหนักหลังจากประกาศตัวไม่นาน เริ่มจากการถูกเพ่งเล็งโดยรัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศ และการตบเท้าถอนตัวจากการเป็นสมาชิกโครงการซึ่งล้วนเป็นบริษัทใหญ่ไฮโปรไฟล์ อย่างต่อเนื่องจน หัวเรือใหญ่ถึงกับลั่นว่า อาจจะต้องถอนตัวจากโครงการ Libra เช่นกัน — หากมีเหตุอันควร – เหตุนั้นคืออะไร?

CNBC รายงานว่า วันที่ 25 ตุลาคม 2019 มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก ได้ขึ้นให้การต่อ คณะกรรมการสภาบริการทางการเงินแห่งสหรัฐฯ ในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ Libra อย่างเป็นทางการครั้งแรก หลังจากที่ได้มีการประชุมและจัดตั้งโครงการ Libra อย่างเป็นทางการไปเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อนหน้านี้

การประชุมและจัดตั้งโครงการ Libra ดังกล่าวส่งผลให้ Libra มีสภาพเป็น ‘องค์กร’ ชนิดหนึ่งอย่างเป็นทางการ มีโครงสร้างและระบบการบริหารจัดการของตนเองอันไม่ได้ขึ้นตรงต่อ มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก แต่เพียงผู้เดียว และ เฟสบุค หรือ กลุ่มธุรกิจของ มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก อย่างเด็ดขาด

ในการให้การ; รัฐบาลสหรัฐฯ รวมไปถึงรัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศมีความเป็นกังวลต่อผลกระทบของ เงินดิจิทัล เป็นอย่างมากและจำเป็นต้องมีการศึกษาและจัดทำโครงการให้ถูกต้องตามเงื่อนไขที่รัฐบาลในหลาย ๆ ประเทศต้องการ จึงส่งผลให้โครงการ Libra อาจไม่สามารถเปิดให้ใช้บริการได้ตามกำหนด คือ กลางปี 2020

มาร์ก ลั่นวาจา พร้อมถอนตัวจาก Libra หากสมาคมฯ ทำไม่ถูกต้อง

ในระหว่างการให้การ นักกฏหมาย ได้ร้องขอให้ มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก เปิดเผยรายการเงื่อนไขทั้งหมดที่มีอยู่เพื่อให้แน่ใจว่าจะไม่มีข้อใดถูกซ่อนเร้นแล้วปล่อยให้ Libra ถูกเปิดตัวอย่างไม่ครบเงื่อนไข

นอกจากนั้น นักกฏหมาย ยังถามต่อว่า หาก Libra ไม่สามารถปฏิบัติตามเงื่อนไขครับทุกข้อ แต่สมาคม Libra ถูกคณะกรรมการร่วมโหวตให้เดินหน้าต่อ มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก จะรับผิดชอบอย่างไร

มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก ตอบว่า “Facebook would be forced to leave the Association” แปลว่า “ก็เท่ากับเป็นการบังคับให้ เฟสบุค ต้องถอนตัวออกจากสมาคมฯ

เมื่อ ส.ส. ไนเดีย เวลาซเกซ ถามว่า มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก จะรอให้สภามีทำการร่างปรับปรุงเงื่อนไขและแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบโครงนี้หรือไม่ — มาร์ก ตอบว่า “ฉันคิดว่าสภาน่าจะแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ไว้แล้ว” ส.ส. ไนเดีย เวลาซเกซ จึงตัดสินคำตอบปลายเปิดของ มาร์ก ว่า ‘ไม่รอ’

Libra น่าจะเป็นอย่างไรต่อไป

สมาคม Libra มีความเสี่ยงว่าอาจจะไม่สามารถปฏิบัติครบทุกเงื่อนไขที่ทุกหน่วยงานตรวจสอบต้องการได้ และอาจจะพยายามหาวิธีผลักดัน Libra ให้เกิดขึ้นโดยไม่รอให้ทุกอย่างถูกต้อง 100% และนั่นหมายความว่า มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก จะต้องพา เฟสบุค ถอนตัวออกจากการเป็นสมาชิกสมาคม Libra ตามที่ลั่นวาจาออกไป

สำหรับความสั่นคลอนของสมาคม Libra เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2019 เมื่อ Paypal พาร์ทเนอร์ระดับไฮโปรไฟล์ของสมาคมประกาศถอนตัว จากนั้นอีก 6 วัน คือ วันที่ 11 ตุลาคม – Visa, Mastercard, Stripe, และ Ebay ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นธุรกิจยักษ์ใหญ่และธุรกิจเทคฯ ไฮโปรไฟล์ แห่ถอนตัวออกจากสมาคมโดยมิได้นัดหมาย

อ่านเพิ่มเติม :

ร้าวแล้ว Paypal ประกาศถอนตัวออกจาก Libra เป็นรายแรก และอาจตามด้วย VISA, Master Card

วงแตก Visa, Mastercard, Stripe, Ebay ถอนตัวออกจากการสนับสนุน Libra แล้ว

สมาชิกที่เหลืออยู่มีใครบ้าง

ส่งผลให้ Libra เหลือสมาชิกจำนวน 21 รายจากเดิม 28 ราย ซึ่งสมาชิกที่เหลืออยู่จะต้องจ่ายค่าสมาชิกจำนวน 10 ล้านดอลลาร์ต่อราย อย่างไรก็ดี มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก อ้างว่า ณ วันนี้ ยังไม่มีสมาชิกรายได้ชำระเงินค่าสมาชิก มีเพียงเขาที่ยังเป็นผู้ลงทุนเพื่อดำเนินสมาคมนี้แต่เพียงผู้เดียว

สมาชิกทั้ง 21 รายได้แก่

  1. Anchorage
  2. Andreessen Horowitz
  3. Bison Trails
  4. Breakthrough Initiatives
  5. Calibra
  6. Coinbase
  7. Creative Destruction Lab
  8. Farfetch
  9. Iliad
  10. Kiva Microfunds
  11. Lyft
  12. Mercy Corps
  13. PayU
  14. Ribbit Capital
  15. Spotify
  16. Thrive Capital
  17. Uber
  18. Union Square Ventures
  19. Vodafone
  20. Women’s World Banking
  21. Xapo

อ่าน คำให้การอื่น ๆ ของ มาร์ก ซักเกอร์เบิร์ก



แหล่งข้อมูลอ้างอิง :

https ://www.cnbc.com/2019/10/23/facebook-would-leave-libra-association-if-it-moves-forward-before-approval.html

https ://www.cnbc.com/2019/10/14/facebook-forms-its-cryptocurrency-council-after-key-backers-drop-out.html