หุ้นแบรนด์หรูจากฝรั่งเศสร่วงระนาว หลัง ทรัมป์ ขู่เก็บอัตราภาษีที่ 100%


วันที่ 4 ธันวาคม 2019 The Standard รายงาน หุ้นกิจการแบรนด์หรูของฝรั่งเศส อาทิ Louis Vuitton, Gucci, Hermès เป็นต้น ฯลฯ ต่างพาเหรดร่วมระนาวหลังโดน นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ ขู่จะเก็บอัตราภาษี 100% สินค้านำเข้าจากฝรั่งเศส

การพิจารณาเก็บภาษีดังกล่าวเกิดจากเมื่อเดือน กรกฏาคม 2019 — ทางการฝรั่งเศสตัดสินใจผ่านร่างกฎหมายเก็บ ‘ภาษีดิจิทัล’ (Digital Services Tax) ในอัตรา 3% จากบริษัทเทคโนโลยีที่เข้ามาทำธุรกิจในฝรั่งเศส ซึ่งผลกระทบโดยตรงกับกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่ของอเมริกัน อาทิ Apple, Google, Amazon และ Facebook เป็นต้น ฯลฯ โดยจะเก็บอย่างเป็นทางการช่วงต้นปี 2020

ส่งผลให้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ตอบโต้ทันทีโดยพิจารณามาตราการจัดเก็บอัตราภาษี 100% จากสินค้าของฝรั่งเศสมูลค่ารวม 2.4 พันล้านดอลลาร์ หรือเกือบ 7.3 หมื่นล้านบาท ซึ่งมีทั้งไวน์, ชีส กระเป๋า, เครื่องสำอาง, และสินค้าส่งออกอื่น ๆ ส่งผลให้ผู้ประกอบการและนักลงทุนฝรั่งเศสเกิดความวิตกกังวลจนหุ้นร่วงถ้วนหน้า

เครือ LVMH ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton และ Moët & Chandon หุ้นลดลง 2% ในขณะที่ Hermès ผู้ผลิตกระเป๋า Birkin อันโด่งดัง หุ้นลดลง 2.6% เช่นเดียวกับแบรนด์ Christian Dior, เครือ Kering เจ้าของ Gucci และ Balenciaga ก็เข่าทรุดไปตาม ๆ กัน รวมเป็นมูลค่ากิจการที่สูญหายไปถึง 9 พันล้านดอลลาร์ ประมาณ 2.7 แสนล้านบาท จากการขู่ของ ทรัมป์ เพียงครั้งเดียว

ทั้งนี้ ไม่ใช่แค่ฝรั่งเศสเท่านั้นที่มีนโยบายจัดเก็บภาษีดิจิทัล เพราะประเทศอื่น ๆ ในยุโรป อาทิ สเปน, อิตาลี, และสหราชอาณาจักร ได้ประกาศแผนการเก็บภาษีรายได้ดิจิทัล โดยต่างเห็นพ้องต้องกันว่าบริษัทเทคโนโลยีเหล่านั้นมักหลีกเลี่ยงภาษีด้วยการสร้างบริษัทย่อยไว้ในประเทศอื่น ๆ