Self-Employed อาชีพอิสระปูทางสู่ความเป็นเจ้าของกิจการ

Businessman Running on Beach

ในภาษาอังกฤษมีอีกรูปแบบในการแบ่งประเภทการทำงานเป็นสามแบบ คือ Employee ลูกจ้าง, Self-Employed จ้างตัวเอง และ Entrepreneur เจ้าของกิจการ

Employee เป็นการทำงานให้เจ้าของกิจการ มีสัญญาณจ้างผูกพัน ทำงานแบบ fixed income รับประกันรายได้และสวัสดิการ โบนัสประจำปี เข้าออกตามเวลาที่กำหนด

Self-Employed เป็นการทำงานที่ตัวเองลงไปจัดการทุกอย่างตั้งแต่สร้างงาน หาตลาด หาลูกค้า ทำเงิน รับเงิน ฯลฯ ไม่มีกำหนดเวลาตายตัว ไม่มีอะไรแน่นอน ทุกอย่างอยู่ที่ตัวคุณเอง บทจะไม่ได้อะไรก็ไม่ได้อะไรเลย แต่ไม่ถึงกับขาดทุน แต่ถ้าผ่านจุดเริ่มต้นรายได้มากกว่าลูกจ้าง 10-100 เท่า

Entrepreneur เจ้าของกิจการ เป็นผู้สร้างระบบการทำงานและให้ระบบและแรงงานมาทำงานแทนคุณ คุณปูรากฐานทางธุรกิจตั้งแต่ เงิน ทรัพยากร และตลาด ไม่มีกำหนดเวลาตายตัว ยามตกต่ำอาจถึงขั้นหมดตัวและขาดทุน แต่ ณ ความสำเร็จ รายได้มากกว่าลูกจ้างเป็นพันเป็นหมื่น หรือ เป็นแสนเท่า เรียกว่าเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงอาจทำกำไรวันเดียวได้มากกว่าเงินเดือนทั้งชีวิตของมนุษย์เงินเดือน!

Entrepreneur คือ ความฝันและเป้าหมายสูงสุดของมนุษย์เงินเดือน แต่คนส่วนน้อยมากๆ ที่จะได้เป็น สาเหตุสำคัญคือ โลกของเจ้าของกิจการนั้นแต่ต่างจากโลกของลูกจ้างแบบหน้ามือเป็นหลังมือ โลกธุรกิจไม่มีกฎเกณฑ์ตายตัว ไม่มีหลักประกัน เพดานกำไรมีไม่ขีดจำกัดพอๆกับจุดขาดทุน อย่างที่บอก ยามตก ไม่ใช่แค่เสมอหรือหมดตัวแต่ติดลบอีกต่างหาก อันเป็นเหตุให้ผู้ประกอบการหน้าใหม่ที่ขนเงินออมจากชีวิตมนุษย์เงินเดือนมาลุยทำเองประสบความล้มเหลว เพราะขาดประสบการณ์การเป็นนายตัวเอง

แต่ในเส้นทางการเป็นเจ้าของกิจการมีจุดเตรียมพร้อมอยู่หนึ่งจุดที่หลายคนอาจไม่รู้ เป็นเสมือนโรงเรียนเตรียมผู้ประกอบการ เป็นก้าวแรกสู่การเป็นนายตัวเอง นั่นคือ Self-Employed.

Self-Employed: ก้าวแรกสู่การเป็นนายตัวเอง

ผมได้สัมผัสกับโลกของ Self-Employed ในจังหวะที่ได้เข้ามาทำงานแปลอิสระ ผมทำควบคู่กับงานประจำโดยอาศัยการจัดสรรเวลาในวันที่มีงานเข้า พอได้เวลาเลิกจากงานประจำเมื่อผมถอดชุดทำงาน white color ออกเวลาต่อจากนั้นคือ black color มนุษย์ทำงานปกดำทำงานอิสระและเป็นนายตัวเองนั้นรสชาดมันแตกต่างกับการเป็นลูกจ้าง

โลกแห่งการเป็นนายตัวเองต้องอาศัยกำลังใจและความรับผิดชอบสูง ช่วงเริ่มต้นเป็นช่วงเวลาที่ท้อแท้ได้ง่ายที่สุด การติดต่อคนเป็นจำนวนมากเพื่อที่จะเสนอสินค้าและบริการโดยไร้วี่แววของความสนใจท่ามกลางคู่แข่งที่เข้าตลาดมาก่อนเรา 5 ปีก็มี 10 ปีก็มี จุดนี้มีแต่สติและใจเท่านั้นที่จะทำให้เดินไปข้างหน้าได้ ต่อมาเมื่อได้งานแล้วคุณต้องเจอกับผู้คนหลากหลายรูปแบบ ต้องเรียนรู้ที่จะพูดคุย ประเมินความเสี่ยงและตัดสินใจที่จะรับหรือไม่รับงาน เมื่อส่งงานแล้วต่อไปก็คือการบริหารจัดการการเรียกเก็บรับชำระเงินและการลุยทำการตลาดใหม่ๆ Self-Employed คุณเป็นทั้ง พนักงานขาย ไอที ฝ่ายการตลาด เสมียน บัญชี จัดซื้อ และจัดส่ง! ถ้าคุณคิดว่าลูกจ้างมันหนัก— จ้างตัวเองหนักกว่า แต่มันก็มีความสุขกับสิ่งที่ทำ สิ่งหนึ่งที่คุณจะลืมไปเลยเมื่อเป็นนายตัวเองคือ แหงนมองดูเวลาเลิกงาน พฤติกรรมแบบนั้นแทบไม่มีในโลกของการเป็นนายตัวเอง

Self-Employed: รอยต่อสู่ความเป็นเจ้าของกิจการ

ด้วยรูปแบบชีวิตที่ผมเล่ามา Self-Employed สร้างประสบการณ์ที่มีความใกล้ชิดกับโลกของการบริหารธุรกิจมากที่สุด ต่างกันตรงที่คุณยังไม่มีลูกจ้าง ลูกทีม หรือทีมงานแบบ Outsource แต่ประสบการณ์การเป็นนายตัวเองแบบ Self-Employed สามารถหล่อหลอมคุณให้การเป็นเจ้าของกิจการที่ประสบความสำเร็จในอนาคตได้โดยไม่ต้องเริ่มจากศูนย์ ….ทำไม?

รายได้จาก Self-Employed คือแหล่งเงินทุนที่อุ่นใจ

ในกรณีที่คุณทำงานประจำไปด้วย การมีรายได้จากงานอิสระส่วนตัวช่วยเพิ่มยอดรายรับต่อเดือน บางเดือนผมได้เงินจากการงานแปลมากกว่าเงินเดือนส่งผลให้เกิดสภาพคล่องและเป็นเงินที่สามารถใช้นำไปลงทุนต่อยอดได้เช่นการพัฒนาเว็บไซต์เช่า Host และจด Domain  หรือการซื้อ Web Theme ซื้อระบบต่างๆ เช่น E-Mail List Account และมีการซื้อ Ads ค่าใช้จ่ายเหล่านี้ก็ได้เงินจากการรับจ้างแปลมาเป็นกำลังสนับสนุนเป็นต้น

Self-Employed เป็นการสร้าง Connection อย่างรวดเร็ว

การทำงานอิสระต้องติดต่อคนเยอะเจอะคนหลากหลายและเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ทางธุรกิจไปในตัว ถ้างานคุณดี เป็นที่รู้จัก คุณก็เติบโตมีเครดิตดีคนก็อยากร่วมงานด้วย ต่อไปถ้าขยับขยายคุณก็จะติดต่อร่วมงานกับคนง่าย อยาก outsource ก็มีคนกล้ารับงาน อยากขายงานก็มีคนกล้าซื้อ ฯลฯ

ทักษะจาก Self-Employed ช่วยติวเข้มสู่การเป็นผู้ประกอบการ

งานที่คุณทำขณะเป็น Self-Employed ค่อนข้างเข้มข้นและงานหนักในช่วง peak คุณต้องลงลุยจัดการเองทุกอย่างตั้งแต่งานเสมียนยันการตลาดอย่างที่บอก ทำให้คุณรู้ระบบการทำงานทั้งกระบวนซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสู่การเป็นนักบริหาร เพราะคุณต้องรู้ทั้งระบบจึงจะเป็นผู้จัดการระบบแล้วปล่อยให้คนอื่นทำงานแทนได้

อาชีพ Self-Employed ที่สรรสร้างรายได้จากภายในตัวเอง

อาชีพ Self-Employed ส่วนมากอยู่ในรูปแบบของงานอิสระ รับจ้าง รับทำ รับเหมา รับขาย รับส่ง เหล่านี้คือ Self-Employed พ่อค้า แม่ขาย ก็เป็น self-employed บางคนอาจค้าขายเป็นแผงเล็กๆตลอดชีวิต แต่บางคนคิดไกลก็ขยับขยายเป็นหน้าร้าน เป็นตึก เป็นเอเย่น ฯลฯ ส่วนอาชีพ Self-Employed สำหรับมนุษย์เงินเดือนทำหลังเลิกงานได้ก็มี

eCommerce: ขายสินค้าออนไลน์ ขายผ่านเว็บไทยเช่น Lnw Shop, We Love Shopping, To Home หรือต่างประเทศเช่น eBay, Amazon การขายของออนไลน์เริ่มต้นง่าย มี Barrier to Entry ต่ำ ปัจจุบันเว็บ eCommerce แบบ Online Marketplace มีให้บริการมากมายนอกเหนือจากห้ารายที่กล่าวมา รวมไปถึงการทำเว็บแบบ Stand Alone เช่า Host ของตัวเองไปเลยซึ่งในปัจจุบันก็มี web template สำเร็จรูปแบบ Commerce Theme ให้ใช้งานสำหรับเปิดเว็บขายของได้รวดเร็วรวมไปถึงระบบ payment gateway อย่าง Paysbuy และ Paypal ก็สนับสนุนระบบ shopping check out แบบครบวงจรที่ใช้งานง่ายและค่อนข้างสำเร็จรูปเช่นกัน

Tutor: รับสอนพิเศษ ซึ่งหมวดในการสอนพิเศษมีมากมายและเป็นที่นิยมของคนทำงานและบัณฑิตจบใหม่ที่แน่นวิชา นอกจากนั้นการสอนเล่นดนตรี สอน สอนภาษาก็เป็นที่นิยมอย่างสูงสำหรับคนมี skill ติดตัว

Consult: นักปรึกษาโดยผู้มีวิชาชีพ เช่น ทนาย แพทย์ วิศวกร นักขายตรง นักการตลาด รับปรึกษาโดยเปิดเป็นเว็บไซต์และบางคนเปิด Facebook Page เพื่อถ่ายทอดความรู้และประชาสัมพันธ์ีรับงานปรึกษากฏหมาย ปรึกษาเรื่องการสร้างแบรนด์และอื่นๆ วิธีนี้เป็นที่นิยมมากในอเมริกา

Writer: นักเขียนโดยในปัจจุบันการเป็นนักเขียนสามารถเริ่มต้นได้ง่าย โดยการเป็นนักรับจ้างเขียนบทความให้กับบล็อก ข้อจำกัดในประเทศไทยตอนนี้คือเีรื่องของคุณภาพและค่าตัว แต่หากคุณเป็นนักเขียนคุณภาพดีและใช้ภาษาอังกฤษได้ก็มีโอกาสรับงานเขียนให้ blogger ต่างประเทศซึ่งรายได้ดีกว่างานเขียนในไทย 5-10 เท่าตัว โดยค่าจ้างเขียนบทความสูงสุดๆที่ผมเคยได้รู้มาคือ บทความละ $100

Translator: นักแปล อาศัยทักษะทางภาษาในการทำงาน นักแปลมีระบบการทำงานที่ใกล้เคียงกับนักเขียน ต่างกันตรงที่การแปลเป็นการเขียนที่ niche กว่าคือ เขียนจากภาษาหนึ่งไปเป็นอีกภาษาหนึ่งโดยมีต้นฉบับให้ดำเนินตาม รายได้ค่าแปลค่อนข้างหลากหลายขึ้นอยู่กับฝีมือและอายุงาน คิดราคาเป็นคำ range ของค่าแปลจะกว้างมาก ค่าแปลงาน 400 คำอาจมีราคาระหว่าง $10 – $40 เพราะอย่างที่บอกว่าราคาขึ้นอยู่กับฝีมือของผู้แปลเป็นหลัก

เหล่านี้เป็นแนวทางการเริ่มต้นสู่โลกของอาชีพส่วนตัวหรือ Self-Employed เพื่อปูทางพัฒนาต่อไปสู่การเป็นเจ้าของกิจการหรือ Entrepreneur ครับ

Paul KridakornPornprom Kridakorn
Blogger | Author
www.theceoblogger.com

Subscribe to our newsletter >> FREE! News| Blog Updates | Exclusive Tips; Right to you Inbox