ประวัติโดยละเอียด อีลอน มัสก์ (Elon Musk) นักธุรกิจไฮเทคฉายา Iron Man ในโลกจริง

สำหรับบทความนี้เราจะมาคุ้ยประวัติของ Elon Musk  (อีลอน มัสก์) เดิมมีชื่อเต็มว่า Elon Reeve Musk เกิด ณ วันที่ 28 มิถุนายา 1971 ในเมือง Pretoria ประเทศแอฟริกาใต้ พ่อเป็นวิศวกรอิเล็คทรอนิกส์ (Errol  Musk) เป็นชาวแอฟริกาใต้ เป็นผู้ที่ร่ำรวยมากมีธุรกิจมากมายรวมทั้งเหมืองมรกต แม่เป็นนักโภชนาการและนางแบบลูกครึ่งแคนนาดา-อเมริกัน (Maye Musk) มีน้องชายชื่อ Kimbal Musk และน้องสาว Tosca Musk

เปิดประวัติ Elon Musk บุรุษที่จะรักษาการคงอยู่ของมวลมนุษย์ชาติ ด้วยการไปอาศัยอยู่บนดาวอังคาร

(ข้อมูลจาก Elon Musk Infographic)

อายุได้ 3 ขวบ มีอาการคล้ายคนหูหนวก(แม้ว่าจะไม่ได้เป็น) พ่อแม่ของอีลอนตัดสินใจให้หมอผ่าต่อม อดีนอยด์ (คล้ายต่อมทอนซิลอยู่ด้านหลังโพรงจมูก) ของเขาออก

อายุ 7 ขวบ ใช้เวลาอ่านหนังสือ วันละ 10 ชั่วโมง

อายุ 8 ขวบ อ่านหนังสือจนหมดทั้งห้องสมุด อ่านหมดแม้กระทั่งสารานุกรม Britannica ที่มีในห้องสมุดเช่นกัน

อายุ 9 ขวบ พ่อกับแม่หย่ากัน อีลอน กับน้องชาย คิมบาล เลือกที่จะอยู่กับพ่อ ส่วนน้องสาวทอสก้า อยู่กับแม่

อายุ 10 ขวบ เริ่มสนใจในคอมพิวเตอร์ โดยเริ่มหัดใช้คอมพิวเตอร์ครั้งแรกกับเครื่อง Commodore VIC-20 (เป็นโฮมคอมพิวเตอร์ 8 bit รุ่นแรก ๆ)

Image credit: wikiwand

อายุ 12 เรียนการเขียนโปรแกรม BASIC (Beginner’s All-purpose Symbolic Instruction Code)ด้วยตนเอง (เป็นภาษาที่ใช้ในไมโครคอมพิวเตอร์) ซึ่งเป็นคอร์สที่คนปกติทั่วไปใช้เวลาเรียน 6 เดือนจบ แต่อีลอนเรียนจบใน 3 วัน

และหลังเรียนจบ ด้วยวัย 12 ปีนี้เอง อีลอนเขียนเกมออกขาย ชื่อ Blastar โดยขายทั้งซอร์ซโค๊ดให้กับนิตยสาร PC and Office Technology ในราคา 500 ดอลล่าร์สหรัฐฯ

ในวัยเด็ก อีลอน มัสก์ ถูกเพื่อนแกล้งที่โรงเรียนเป็นประจำ เป็นเหมือนฝันร้ายในวัยเด็ก เลวร้ายที่สุดคือถูกกลุ่มเพื่อนโยนลงบันไดและตามทุบตีจนหมดสติ จนอีลอนต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาล

ในช่วงที่ Elon Musk อายุได้ 14 ปี เขาได้อ่านหนังสือที่ชื่อว่า The Hitchhiker’s Guide to the Galaxy ซึ่งเป็นหนังสือเกี่ยวกับการท่องไปในอวกาศ และจากนั้นเป็นต้นมาเขาก็ได้ตัดสินใจว่า ภาวรกิจในชีวิตของเขานับตั้งแต่นี้ไป คือการรักษาการดำรงอยู่ของมวลมนุษยชาติ

หนังสือ The Hitchhiker's Guide to the Galaxy
Image credit: mentalfloss

อายุ 15 พ่อของเขาให้ทดลองทำงานจริง ๆ แบบใช้แรงงาน ได้ลองทำงานทุกอย่าง งานแปลก ๆ และออกไปอาศัยอยู่กับญาติของเขา

อายุ 17 เรียนจบมัธยมปลาย ตัดสินใจย้ายไปอยู่แคนนาดากับแม่ และได้สัญชาติแคนนาดาตามแม่ อีลอน มีแผนจะย้ายไปอยู่อเมริกา

ที่แคนนาดา อีลอนทำงานหนักเคยทำงานตั้งแต่พนักงานทำความสะอาด ที่มีค่าตอบแทนเพียง 18 ดอลล่าร์ต่อชั่วโมงเท่านั้น

อายุ 18 (ปี1989) เข้าเรียนที่มหาวิยาลัยควีน ในรัฐออนแทริโอที่แคนนาดา  ขณะเป็นนักศึกษาได้โทรไปขอฝึกงานกับผู้บริหารธนาคาร และได้รับการตอบรับ หวังว่าจะได้โชว์ความอัจฉริยะ แต่ทำได้แค่ชงกาแฟ

อายุ 20 ขอโอนย้ายหน่วยกิต ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเพนซิลวาเนีย สหรัฐอเมริกา หลังจากที่เขาย้ายมหา’ลัยได้ไม่นาน ก็ก่อวีรกรรมเอาไว้อย่างสุดแสบนั่นก็คือ เขาได้เช่าบ้านแห่งหนึ่งในเพนซิวาเนีย แล้วเปิดเป็นไนท์คลับขายเครื่องดื่มแอลกอฮอร์แบบไม่มีใบอนุญาต ซึ่งเปิดให้เหล่าบรรดานักศีกษาเข้ามาสังสรรค์ในราคาค่าเข้าคนละ 5 ดอลล่าร์ และสามารถดื่มอะไร เท่าไหร่ก็ได้ทั้งหมดที่มีอยู่ภายในงาน ซึ่งทำให้มีคนเข้ามาในงานปาร์ตี้ขี้เมาของเขากว่า 500 คน

Elon Musk nightclub
Image credit:

อายุ 23 เรียนจบปริญญาด้านฟิสิก์และเศรษฐศาสตร์  หลังจากนั้นได้ฝึกงานในบริษัทอิเล็คทรอนิกส์และวิดีโอเกม

เริ่มระดมความคิดกับ คิมบาล น้องชาย อยากจะทำบริษัทสตาร์ทอัพเกี่ยวกับยา

อายุ 24 (ปี 1995)เข้าเรียนต่อปริญญาเอกที่ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ใจกลางซิลิคอนวัลเลย์ แต่หลังจากเรียนได้ 2 วัน ก็ไม่กลับไปเรียนอีกเลย

พ่อของอีลอน ให้เงินกับอีลอน และคิมบาล รวม 28,000 ดอลล่าร์ (ราว ๆ 7 แสนบาท) เพื่อเปิดเว็บไซต์ที่ชื่อ Zip2 เป็นเว็บไซต์ที่ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับการท่องเที่ยว

อีลอนกับน้องชายทุ่มเทให้กับ Zip2 เต็มที่ กินนอนอยู่ในออฟฟิศถึง 3 เดือน โดยอีลอนเขียนโปรแกรมและเว็บไซต์ด้วยตนเอง

อายุ 25 (ปี1996) ได้รับเงินทุนเพิ่ม 3 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ หลังจากนั้นไม่นาน ก็โดนปลดจากตำแหน่ง CEO โดยผู้ลงทุนนั้นเอง

หลังจากนั้นแม้ไม่ได้เป็น CEO แต่ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ เมื่อ Compaq เข้าซื้อ Zip2 ด้วยมูลค่า 341 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ อีลอนจึงได้รับเงินส่วนแบ่งเป็นจำนวน 22 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

elon musk zip2
Image credit: slideshare

อายุ 28 (ปี1999) อีลอน ก่อตั้งบริษัท X.com เป็นธนาคารออนไลน์ โดยใช้เงินตัวเองลงทุนถึง 10 ล้านดอลล่าร์ และเอาเงินอีก 1 ล้านดอลล่าร์ไปซื้อรถ McLaren f1 (แล้วก็เอาไปชนจนพังยับไม่มีชิ้นดี)

อายุ 29 (ปี 2000) X.com ประกาศซื้อกิจการ บริษัทคอนฟินิตี้ (Confinity) สตาร์ทอัพฟินเทค เพื่อปูทางไปสู่การก่อตั้ง Paypal ระรบรับจ่ายเงินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

elon musk and peter thiel paypal
Image credit: boomsbeat

แต่งงานกับแฟนสาว Justine Wilson (ชาวแคนนาดา) (พบกันตอนเรียนที่มหาวิยาลัยควีน)

เริ่มมีปัญหากับ CTO ในเรื่องการวางระบบเซิร์ฟเวอร์ อีลอนจึงหลบไปพักผ่อนที่ออสเตรเลียชั่วคราว ถือโอกาสไปฮันนีมูนด้วย

กรรมการบริหารจึงฉวยโอกาสนี้ลงมติปลดเขาออกจากตำแหน่ง CEO แล้วแต่งตั้ง Peter Thiel ขึ้นเป็น CEO แทน

หลังจากถูกปลดจาก CEO อีลอนยังคงลงทุนเพิ่มในบริษัท และเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่สุด

แต่เกือบตายด้วยไข้มาลาเรียขณะไปเที่ยวพักผ่อน

ในช่วงเวลานี้เอง อีลอนเริ่มมีความคิดเกี่ยวกับโครงการอวกาศ และย้ายบ้านไปอยู่ใน ลอสแอนเจลิส เพื่อที่จะได้ใกล้ชิดกับอุตสาหกรรมอวกาศ และศึกษาเกี่ยวกับการสร้างจรวดจากหนังสือ

อายุ 30 (ปี 2001) เดินทางไปรัสเซียเพื่อขอซื้อจรวดขีปนาวุธโซเวียตที่ปลดประจำการแล้ว เพื่อนำมาทำการทดลอง

อายุ 31 (ปี 2002) หลังจากการเจรจาอันยาวนาน ก็ต้องล้มเหลว พ่อค้ารัสเซียต้องการขายจรวดในราคาสูงถึง 8 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งอีลอนคิดว่ามันแพงเกินไป

ในปีนี้เอง เขาได้ลูกชาย ชื่อ Nevada Alexander ในเดือน พฤษภาคม 2002

ในเดือนมิถุนายน เขาเริ่มก่อตั้งโครงการ SpaceX ที่จะสร้างจรวดด้วยตัวเอง โดยลงทุนเองทั้งหมด

elon kusk spacex
Image credit: mytechbits

ต่อมาในเดือนกรกฎาคม ก็เกิดเรื่องน่าเศร้า เพราะลูกชายของเขา ได้เสียชีวิตลงด้วยโรค SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) หรือ โรคตายอย่างเฉียบพลัน ด้วยวัยเพียง 10 สัปดาห์เท่านั้น

ต่อมาในเดือน ตุลาคม 2002 ebay ได้ติดต่อเข้าซื้อกิจการ Paypal ด้วยราคาสูงถึง 1.5 พันล้านดอลล่าร์ และในฐานะที่อีลอนถือหุ้นใหญ่ที่สุด เขาจึงได้เงินส่วนแบ่งมากถึง 180 ล้านดอลล่าร์

EBay PayPal
Image credit: chicago

ตอนนี้เขาคิดที่จะสร้างรถยนต์พลังงานไฟฟ้า

อายุ 33 (ปี 2004) ร่วมกับ Martin Eberhard และ JB Straubel ก่อตั้ง Tesla Motors อีลอนลงทุนด้วยเงิน 70 ล้านดอลล่าร์

ในปีนี้เองเขาได้ลูกชายฝาแฝดจากการทำเด็กหลอดแก้ว

อายุ 35 (ปี 2006) ในเดือนมีนาคม การปล่อยจรวดครั้งแรก ล้มเหลว ต่อมาเดือนกรกฎาคมได้ร่วมลงนามกับ NASA เพื่อจะส่งสัมภาระไปยัง สถานีอวกาศ ISS

เดือนสิงหาคม ได้ลงทุนในบริษัทโซล่าร์ซิตี้ บริษัทผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์

และในช่วงปลายปีนี้เอง เขาก็ได้ลูกชายแฝด 3

อายุ 36 (ปี 2007) เดือนมีนาคม การทดลองจรวดครั้งที่ 2 ล้มเหลว

อายุ 37 (ปี 2008) รถเทสลาร์คันแรก ชื่อรุ่น Roadsters ที่อีลอนมีส่วนร่วมในการออกแบบทั้งหมด ได้ส่งมอบให้กับลูกค้าเรียบร้อย ในราคา 109,000 ดอลล่าร์

กรกฎาคม 2008 อีลอน หย่าร้างกับภรรยา Justine

สิงหาคม 2008 การทดลองจรวดครั้งที่ 3 ล้มเหลว และครั้งนี้ยังสร้างความเสียหายให้นาซ่าด้วย

ในขณะเดียวกัน Tesla Motors ก็กำลังย่ำแย่ จากการสูญเงินสดมหาศาลในช่วงที่ Martin Eberhard เป็น CEO

อีลอน ใช้เงินตัวเอง 40 ล้าน และกู้เพิ่มอีก 40 ล้าน ลงทุนไปใน Tesla เพื่อพยุงไม่ให้ Tesla ล้มละลาย และขึ้นเป็น CEO ของ Tesla เอง

กันยายน 2008 การทดลองจรวดครั้งที่ 4 ประสบความสำเร็จ

อีลอนหลั่งน้ำตาเมื่อตระหนักว่า SpaceX กำลังจะล้มละลาย

ธันวาคม 2008 นาซ่าตกลงเซ็นสัญญากับ SpaceX ในการขนส่งทางอวกาศ 12 เที่ยว มูลค่า 1.6 พันล้านดอลล่าร์

อีลอนสามารถระดมทุนให้กับ SpaceX และ Tesla ได้ทันเวลา รอดพ้นจากการล้มละลายได้อย่างหวุดหวิด

ช่วงปี 2008 เป็นปีที่หนักหน่วงที่สุดในชีวิตของอีลอน

อายุ 38 (ปี 2009) เปิดตัว Tesla Model S

อายุ 39 (ปี 2010) เดือนมิถุนายน Tesla เข้าตลาดหุ้น เพิ่มทุนได้ 226 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

เดือนตุลาคม 2010 อีลอนเข้าซื้อโรงงานผลิตรถยนต์ที่เป็นโรงงานเก่าของโตโยต้า

และในปีนี้เอง อีลอนได้แต่งงานใหม่กับ ดาราสาวชาวอังกฤษ Talulah Riley

อายุ 40 (ปี 2011) ประกาศจะนำคนไปเหยียบดาวอังคารภายในปี 2021-2031 “ผมต้องการตายบนดาวอังคาร แบบไม่ใช่เพราะแรงกระแทกนะ” (หมายถึงแก่ตาย)

elon musk mars
Image credit: businessinsider

กันยายน 2011 ประกาศจะทำจรวดที่สามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (ซึ่งสามารถลดต้นทุนการเดินทางสู่อวกาศได้เป็นร้อยเท่า)

อายุ 41 (ปี 2012) เดือนกุมภาพันธ์ เปิดตัว Tesla Model X เป็นรถ SUV

มีนาคม 2012 หย่าร้างกับ Talulah

พฤษภาคม 2012 ส่ง Dragon docks เชื่อมต่อกับสถานนีอวกาศ

มิถุนายน 2012 เริ่มส่งมอบรถ Tesla Model S ให้กับลูกค้า

elon musk tesla motors
Image credit: abcnews

กันยายน 2012 ทดสอบการลงจอดของจรวดในแนวดิ่ง ในเป้าหมายที่จำกัดพื้นที่

และเปิดตัวสถานีชาร์ตไฟ แบบ Supercharger สำหรับชาร์ตไฟให้รถยนต์พลังงานไฟฟ้าอย่าง Tesla

อายุ 42 (ปี 2013) เมษายน ทดสอบการลงจอดของจรวดในทะเล

กรกฎาคม กลับมาแต่งงานกับ Talulah Riley อีกครั้ง

สิงหาคม 2013 เปิดเผยต้นแบบของโครงการไฮเปอร์ลูป ที่จะมีความเร็วสูงสุด 1,200 กม./ชั่วโมง

อายุ 43 (ปี 2014) เมษายน ทดสอบการลงจอดของจรวดในทะเล โดยลงจอดบนเรือ

มิถุนายน เริ่มก่อสร้างโรงงานขนาดยักษ์เพื่อผลิตแบตเตอรี่

ธันวาคม 2014 ยื่นขอหย่าอีกครั้ง แต่ขอยกเลิกในอีก 7 เดือนต่อมา

อายุ 44 (ปี 2015) เมษายน เปิดตัว Powerwall แบตเตอรี่สำหรับใช้ร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อเป็นแหล่งจ่ายพลังงานไฟฟ้าในบ้าน

มิถุนายน การทดลองจรวดล้มเหลว (ล้มเหลวเป็นครั้งแรกหลังจากทดลองสำเร็จมา 19 ครั้ง)

กันยายน ส่งมอบรถ Tesla Model X ให้ลูกค้าคนแรก

พฤศจิกายน ถูกท้าทายจาก Jeff Bezos Ceo Amazon ที่สามารถทำจรวดไปโคจรนอโลกรอบสั้น ๆ แล้วนำกลับมาจอดยังโลกอย่างปลอดภัย

ธันวาคม 2015 SpaceX Falcon 9 การทดลองนำจรวดกลับมาจอดยังฐานบนผืนน้ำเพื่อเติมพลังงานประสบความสำเร็จเป็นครั้งแรก และสามารถทำให้จรวดนำกลับมาใช้ใหม่100%ได้ครั้งแรกในโลก

ได้รับสัญญาจากนาซ่าเพิ่มเติมอีก 24 ฉบับ

ในปีนี้ยังก่อตั้งบริษัท The Boring Company เพื่อทำอุโมงค์ยักษ์ใต้ดินเพื่อใช้ในการเดินทางด้วยความเร็วสูง อีลอนเปิดเผยเพียงว่า หากขุดอุโมงค์นี้เชื่อมนิวยอร์กและวอชิงตัน ดี.ซี. ก็จะสามารถพัฒนาไฮเปอร์ลูปมาเชื่อมในเส้นทางนี้ได้

The Boring Company
Image credit: marketmadhouse

อีลอนก่อตั้งกลุ่ม OpenAi เป็นองค์กรไม่แสวงหากำไร เพื่อสนับสนุนงานวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์ เพื่อให้แน่ใจว่าเทคโนโลยีนี้จะไม่ทำลายมนุษยชาติ

OpenAi
Image credit: openai

Tesla เข้าซื้อบริษัท SolarCity ด้วยเงิน 2,600 ล้านดอลล่าร์สหรัฐฯ

โปรโมทระบบขับเคลื่อนด้วยตนเองของ Tesla

อายุ 45 (ปี 2016) มีนาคม Riley เป็นฝ่ายยื่นขอหย่าเอง และทั้งสองหย่าขาดจากกันในเดือนตุลาคม 2016

อายุ 46 (ปี 2017) กรกฎาคม ไฮเปอร์ลูปทดลองเฟสที่ 2 ทำความเร็วได้ 310 กม./ชั่วโมง ตั้งเป้าเปิดให้ใช้งานในปี 2021

และล่าสุดเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ ได้เปิดเผยคลิปวิดีโอ โปรโมทโครงการ SpaceX ที่จะนำมาใช้เดินทางบนโลกแทนเครื่องบิน

เรียนรู้ชีวิตของ Elon Musk บุรุษผู้ที่จะถูกจารึกชื่อในประวัติศาสตร์

Elon Musk
Image credit: businessinsider

ในยุคสมัยก่อนหน้าที่จะมีการปฏิวัติอุตสาหกรรม โลกของเรามีบุคคลสำคัญมากมายที่ฝากผลงานระดับพลิกโลกไว้ เช่น เซอร์ไอแซคนิวตัน ที่ค้นพบกฎแรงโน้มถ่วง ไมเคิล ฟาราเดย์ ผู้ให้กำเนิดไฟฟ้า หรือสองพี่น้องตระกูลไร้ท์ ผู้ให้กำเนิดเครื่องบิน แต่ Elon Musk ชายผู้นี้ได้สร้างสิ่งมหัศจรรย์มากมายนับไม่ถ้วน ที่ไม่น่าเชื่อว่าจะเกิดขึ้นในชั่วชีวิตของคนเพียงคนเดียว จากเส้นทางชีวิตข้างต้น เราคงได้เห็นแล้วว่า แม้จะเกิดในตระกูลที่ร่ำรวย แต่ก็ไม่ได้มีความสมบูรณ์พร้อมไปเสียหมด

Elon Musk คือ Introvert ตัวพ่อ

Elon Musk เป็นคนที่ชอบเก็บตัว ไม่ค่อยชอบสังคม ไม่สุงสิงกับใคร ครั้งหนึ่ง Errol Musk พ่อของเขา เคยให้สัมภาษณ์กับสื่อ (ซึ่งเป็นการสัมภาษณ์น้อยครั้งมาก ๆ) ว่า “Elon น่ะเหรอ เขาชอบเก็บตัว ถ้าไปงานปาร์ตี้วันเกิดใครซักคนนึง จะไม่มีทางเห็นเขาไปเต้นหรือไปยืนคุยกับใคร เราจะหาเขาได้ที่ห้องสมุดของเจ้าของบ้าน เขาจะนั่งหลบมุมอ่านหนังสือเงียบ ๆ อยู่ในนั้นแหละ” แต่สิ่งหนึ่งที่พ่อของเขาเองไม่เคยรู้ก็คือ สาเหตุของการเก็บตัวนั้น นอกจากที่ Elon จะชอบอ่านหนังสือแล้ว การที่เขาไม่ชอบคบหรือพูดคุยกับคนอื่น มาจากการโดนแกล้งที่โรงเรียน

กว่าพ่อจะรู้ว่าลูกตัวเองโดนแกล้ง Elon Musk ก็ถูกหามส่งโรงพยาบาลแล้ว

เขาถูกเพื่อนกลุ่มใหญ่รุมทำร้าย และจับโยนลงมาจากบันได และยังตามมากระหน่ำทุบตีจน Elon สลบไป ดังนั้นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเขาจึงไม่ใช่มนุษย์ แต่เป็นหนังสือ Elon ใช้เวลาอ่านหนังสือถึงวันละ 10 ชั่วโมง แทนที่จะไปวิ่งเล่นกับเพื่อน และเป็นนักอ่านตัวยง อ่านจนหนังสือหมดห้องสมุด

เข้าใจชีวิตเพราะการอ่าน

ด้วยการอ่านนี้เอง เขาอ่านทุกอย่างที่ขวางหน้า ทั้งวิทยาศาสตร์ ศาสนา ปรัชญา สุดท้ายทำให้เขาเข้าใจชีวิต และห่วงใยในเพื่อนมนุษย์ ในวัย 14 ที่หลาย ๆ คนอาจจะยังวิ่งเล่นและเริ่มมีความรักหนุ่มสาว และเอาแต่คิดถึงแต่ตัวเอง แต่ Elon Musk กลับตั้งเป้าหมายใช้ชีวิตเพื่อปกป้องมวลมนุษยชาติ

โลกพังทลาย หลังการหย่าร้างของพ่อแม่

ในวัยเพียง 9 ขวบเขาต้องเลือกระหว่างพ่อกับแม่ และเขาเลือกอยู่กับพ่อ และนั่นทำให้เขายิ่งเจ็บปวด เพราะหลังจากการหย่าร้าง บ้านก็ไม่เป็นเหมือนบ้านอีกต่อไป ความสัมพันธ์ของเขากับพ่อเริ่มแย่ลง เขาไม่ได้เป็นคุณหนูของบ้านอีกแล้ว พ่อเริ่มให้เขาหัดทำงานทุกอย่างในบ้าน และทำงานนอกบ้านอย่างจริงจังในตอนอายุ 15 ทุกสิ่งที่เขาเจอในแอฟริกาใต้ เป็นเรื่องที่เขาไม่อยากพูดถึง Elon อดทนจนเรียนจบม.ปลาย และขอย้ายไปอยู่แคนนาดา

โดยพ่อ ก็พูดไล่หลังไปว่า ถ้าอยู่ที่แอฟริกา ก็จะส่งเรียนจนจบมหาวิยาลัย แต่ถ้าไปแคนาดาก็ไปหาเงินเรียนต่อเอาเอง แม้พ่อเขาจะร่ำรวยแค่ไหนก็ตาม แต่ Elon ก็ไม่ขอกลับไปอยู่กับพ่อ ยอมทำงานส่งตัวเองเรียนในแคนาดา และสอบชิงทุนต่อไปเรียนที่อเมริกา

วางแผนไปซิลิคอนวัลเลย์

Elon Musk เปิดโลกกว้างด้วยการอ่าน เขารู้ว่าที่อเมริกา มีเมืองอยู่เมืองหนึ่ง เป็นเมืองเทคโนโลยีที่มีแต่คนเก่ง ๆ และมีโอกาสมากมายเต็มไปหมด เหมือนดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของเหล่านักคิดนักวิทยาศาสตร์ และเขาตั้งใจว่าจะต้องไปอเมริกา ไปซิลิคอนวัลเลย์ให้ได้ แม้จะต้องไปอยู่แคนาดาก่อน และไปทำงานล้างหม้อต้มน้ำร้อนที่สกปรกสุด ๆ แลกกับเงินเพียงเล็กน้อยก็ยอม

ฝึกนิสัยพึ่งพาตนเองตั้งแต่เด็ก

เนื่องจากเป็นเด็กเก็บตัว จึงไม่เคยร้องขอความช่วยเหลือจากใคร อะไรที่ทำเองไม่ได้ จะหาข้อมูลด้วยการอ่าน และฝึกทดลองทำเองจนสำเร็จ ตั้งแต่เรียนเขียนโปรแกรมด้วยตัวเอง จนทำเกมออกขายได้ตั้งแต่อายุได้เพียง 12 ขวบ ไปจนถึงการสร้างยานจรวดด้วยตนเองจากการอ่านหนังสือ

เริ่มต้นจากจุดเล็ก ๆ

Elon Musk ชอบพึ่งพาตนเองก่อนเสมอ และหยิบจากสิ่งรอบตัวที่พอจะมี สร้างสิ่งที่ตัวเองต้องการแล้วค่อย ๆ ต่อยอดไปทีละนิด จากการหาเงินส่งตัวเองเรียน จนถึงวันที่จะต้องเริ่มธุรกิจจริงจัง เขาเคยขอเงินพ่อแค่ครั้งเดียว และพ่อก็ให้เงินเขาเพียง 28,000 ดอลล่าร์เท่านั้น แต่เขากลับสร้างกำไรได้มหาศาลถึง 22 ล้านดอลล่าร์

มุ่งมั่นที่เป้าหมาย แม้จะต้องเดินอ้อมไกลแค่ไหนก็ตาม

Elon Musk มีเป้าหมายจะปกป้องมนุษยชาติ จากวิกฤติของภัยธรรมชาติ โดยต้องการหาทางสำรองไว้เพื่อไม่ให้มนุษย์ต้องสูญพันธุ์หากเกิดอะไรขึ้นกับโลก ซึ่งเป้าหมายนี้ มั่นคงและแน่วแน่มาตั้งแต่ Elon อายุ 14 ปี แม้ว่าก่อนจะมีโครงการ SpaceX จะทำให้ Elon ต้องเดินอ้อมไปไกล ๆ อย่างทำ Zip2 เพื่อหาเงินก้อนแรก แล้วไปทำ Paypal จึงจะเริ่มทำ SpaceX ได้และระหว่างนั้นก็ทำ Tesla ไปด้วย เพื่อหาทุนมาอุดหนุนโครงการ SpaceX ต่อ เป้าหมาย Multi-Planet ที่จะสร้างอานานิคมบนดาวดวงอื่น เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์มนุษย์ ยังคงชัดเจนไม่เปลี่ยนแปลง

แต่ก่อนจะไปถึงตรงนั้น Elon ต้องยอมเดินอ้อมไปไกลมาก ๆ เช่นต้องหาเงินทุน และทำให้นักลงทุนมั่นใจก่อน โดยติดต่อกับนาซ่า ขอส่งจรวดขนสัมภาระขึ้นไปแทน โดยนาซ่าจะลดภาระค่าใช้จ่าย ไม่ต้องสร้างจรวดเอง และนาซ่าตกลงเซ็นสัญญาว่าจ้างระยะยาวในที่สุด ทำให้นักลงทุนเริ่มมีความเชื่อมั่น ยอมจ่ายเงินลงทุนให้ Elon ทำให้โครงการของเขาเดินหน้าต่อไปได้ และล่าสุดกับการวาดฝันโดยใช้จรวดบินแทนเครื่องบินพาณิชย์ เพื่อเดินทางไปที่ไหนก็ได้ในโลก ก็เพื่อที่จะระดมทุนครั้งใหญ่ เพื่อผลักดันให้มีจำนวนจรวดมากขึ้น เพื่อเตรียมการสู่การเดินทางไปดาวอังคารในอีก 7 ปีข้างหน้า ที่กำลังจะมาถึงนี้

ล้มแล้วลุกใหม่ทุกครั้ง

Elon Musk แม้จะถูกหักหลังบ่อยครั้ง ตั้งแต่ Zip2 ที่ถูกปลดกลางอากาศ จากตำแหน่ง CEO ในบริษัทของตัวเอง และพอมาทำ Paypal ประวัติศาสตร์ก็ซ้ำรอยเดิมอีก โดนปลดกลางอากาศเหมือนเดิม แล้วลูกที่เพิ่งคลอดก็ยังมาจากไปอีก ทดลองจรวดที่สร้างด้วยตัวเอง ก็ล้มเหลวนับครั้งไม่ถ้วน เงินก็ไหลออกเป็นน้ำจนแทบล้มละลาย  ให้เพื่อนนั่งบริหาร Tesla ก็จะพา Tesla ล้มละลาย แถมเมียยังมาขอหย่าอีก เรียกว่าถ้าเป็นคนปกติ อาจจะเสียสติไปแล้วก็เป็นได้

แต่ทุก ๆ ช่วงชีวิตมักมีเวลาของมัน ความทุกข์ที่ถาโถมเข้ามา โชคร้ายที่รุมกระหน่ำซ้ำเติมเข้ามา มันจะผ่านไป ถ้ารีบลุกขึ้นมาให้เร็วเท่าไหร่ มันก็จะยิ่งผ่านไปเร็วเท่านั้น

ไม่กลัวขาดทุน คิดถึงแต่ประโยชน์ของผู้ใช้

ทั้ง SpaceX และ Tesla รวมถึง Hyperloop  Elon Musk คิดถึงแต่ประโยชน์ของผู้ใช้เป็นหลัก เพราะเน้นว่าทำออกมาแล้ว ต้องมีค่าใช้จ่ายที่ไม่แพง

  • SpaceX ต้องเดินทางได้ในราคา Economy Class
  • Tesla ประหยัดพลังงาน ชิ้นส่วนน้อยอะไหล่น้อยซ่อมบำรุงน้อย
  • Hyperloop ขนคนได้ในจำนวนมากในเวลาอันรวดเร็ว เก็บค่าโดยสารได้ถูก

แต่ด้วยความคิดนี้เอง ทำให้ เกือบล้มละลายมาแล้วทั้ง SpaceX และ Tesla เพราะทุนวิจัยและพัฒนามันแพงเหลือเกิน

อัจฉริยะที่เกิดจากความพยายาม

ด้วยเป้าหมายที่แน่วแน่ Elon Musk จึงมีความพยายามที่จะเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และไม่เคยย่อท้อ ไม่ว่าจะเจอกับอุปสรรคอะไร การทดลองจรวด แม้จะโดนดูถูก เยาะเย้ยถากถาง เขาไม่เคยใส่ใจ และยังคงมุ่งมั่นทำงานของตัวเองต่อไป แม้การทดลองจะล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ทุก ๆ ครั้งเขาจะกลับมาและทำให้มันดีขึ้นกว่าเดิม เราได้เห็นทั้ง เซอร์ไอแซคนิวตัน, ไมเคิล ฟาราเดย์, ทอมัส อัลวา เอดิสัน และ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ในตัวของ Elon Musk จากความที่เป็นนักอ่านและนักลงมือทำ จึงทำให้ในวันนี้ Elon Musk ทำสิ่งที่คนทั่วโลกคิดมาตลอดหลายร้อยปีว่า เป็นไปไม่ได้ ให้เกิดขึ้นจริงได้แล้ว และยังมีอีกหลายสิ่งที่เคยเป็นไปไม่ได้ กำลังจะเกิดขึ้น ภายใต้ชื่อของเขาคนนี้ Elon Musk

Elon Musk
Image credit: engadget

ผมไม่มีทางยอมแพ้เด็ดขาด
จนกว่าผมจะพิกลพิการไม่ก็ตายกันไปข้างนึง
– ELON MUSK –

Resources :